กินไม่หยุด ฉุดไม่อยู่! คุณกำลังมีอาการ Binge Eating Disorder อยู่รึเปล่า?

ตบะแตก! กินอีก! กินอีก!
กินแล้วกินอีก หยุดไม่ได้ หิวก็กิน ไม่หิวก็กิน แล้วยังมานั่งนอยด์ที่ตัวเองกินอีก

พฤติกรรมเหล่านี้อาจเป็นเหมือนเรื่องปกติที่ใครหลายคนเป็น มองเผินๆ อาจจะเป็นแค่คนที่ไม่มีวินัยในการกินและตบะแตก กวาดเอาทุกอย่างเข้าปากตามใจชอบถึงแม้ว่าร่างกายจะส่งสัญญาณว่าอิ่มก็ยังไม่หยุดกิน แต่ในความจริงแล้วคนเหล่านั้นอาจกำลังมีอาการ “โรคกินไม่หยุด” หรือ Binge Eating Disorder (BED) อยู่ก็ได้

Binge Eating Disorder เป็นอาการทางจิตใจที่ส่งผลให้มีพฤติกรรมกินผิดปกติ โดยจะกินอาหารครั้งละมากๆ และมีพฤติกรรมกินเร็วกว่าปกติ ไม่สามารถควบคุมตัวเองได้ แม้จะไม่มีอาการหิวเลยก็ตาม และไม่เหมือนกับโรคการกินผิดปกติอื่นๆ อย่างโรค Anorexia ที่จะมีพฤติกรรมเอาของที่กินออก เช่น ล้วงคอ กินยาลดความอ้วน หรือถ่ายท้อง เพราะ Binge Eating Disorder มีเฉพาะพฤติกรรม ‘เอาเข้า’ เท่านั้น

หลังจากตบะแตกกินอาหารแบบไม่บันยะบันยังผู้ป่วยจะมีอาการเศร้า วิตกกังวลรู้สึกละอายและรังเกียจตัวเองที่กินมากจนเกินไป ผู้ป่วยส่วนใหญ่กินอาหารมากจนร่างกายรับไม่ไหว จะเกิดความรู้สึกทรมาน มีน้ำหนักขึ้นลงไม่คงที่ รวมถึงมักมีภาวะน้ำหนักเกินและภาวะอ้วนร่วมด้วย

นอกจากนี้ผู้ป่วยยังมีพฤติกรรมชอบกักตุนอาหารไว้รอบบ้านเพื่อให้สามารถกินอาหารได้ตลอดเวลา มีความพยายามและเครียดที่จะควบคุมพฤติกรรมการกินของตัวเอง แต่ไม่สามารถทำได้จนต้องลดน้ำหนักแบบหักโหมเกินพอดี มีความกดดันในรูปร่างและน้ำหนักของตัวเองมาก

โรคนี้เกิดได้กับใครบ้าง?

อันที่จริง Binge Eating Disorder เป็นโรคผิดปกติทางการกินที่พบได้บ่อย โดยพบมากถึง 2% โดยเฉพาะในกลุ่มวัยรุ่นตอนปลายถึงอายุราว 20 ต้นๆ แม้ว่านักวิจัยจะยังไม่สามารถระบุถึงสาเหตุของโรคที่แน่นอนได้ แต่พบปัจจัยเสี่ยงจากหลายสาเหตุ

หนึ่งในการศึกษาพบว่าผู้ป่วยโรคนี้มักมีความอ่อนไหวต่อ ‘โดพามีน’ (Dopamine) สารเคมีในสมองที่ส่งผลต่อความรู้สึกผิดและกดดัน และมีหลักฐานที่ค่อนข้างชัดเจนว่า โรคนี้สามารถส่งต่อทางพันธุกรรมได้

นอกจากนี้เพศยังมีนัยยะสำคัญ Binge Eating Disorder มักเกิดกับเพศหญิงมากกว่าชาย โดยในสหรัฐพบผู้หญิงที่มีอาการของโรคนี้ 3.6% ในขณะที่ผู้ชายมีอาการ 2% เท่านั้น

แม้ว่าโรคนี้จะไม่ได้ส่งผลอันตรายต่อร่างกายโดยตรง แต่จากการสำรวจพบว่า 80% ของผู้ป่วยมักมีโรคอื่นๆ ร่วมด้วย เช่น โรคกลัว โรคซึมเศร้า ไบโพลาร์ โรคเครียด และพฤติกรรมการกินไม่หยุดก็อาจส่งผลให้เกิดปัญหาสุขภาพ เช่น โรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง โรคเกี่ยวกับระบบย่อยอาหาร ได้เช่นกัน

การรักษาโรค Binge Eating Disorder ควรอยู่ในการดูแลของแพทย์ โดยแนวทางการรักษาจะขึ้นอยู่กับสาเหตุและความรุนแรงของแต่ละคน ส่วนใหญ่มักจะใช้วิธีจิตบำบัด ความขัดแย้งในใจของผู้ป่วย และในบางรายอาจมีการให้ยาในการรักษาร่วมด้วย

อ้างอิง:

• คณะแพทยศาสตร โรงพยาบาลรามาธิบดี. Review of the drug treatment of binge eating disorder. https://bit.ly/35qAAEy
• NEDA. Binge eating disorder (BED). https://bit.ly/38DV52L
• Health Line. Binge Eating Disorder: Symptoms, Causes, and Asking for Help. https://bit.ly/3eROLpu