แฟชั่นต้องยั่งยืน! กระเป๋า ‘หนังเห็ด’ ปลูกจากเชื้อรา ช่วยลดโลกร้อน แถมลดการเบียดเบียนสัตว์
นอกจากอุตสาหกรรมต่างๆ ที่ส่งผลกระทบสำคัญต่อสิ่งแวดล้อมแล้ว ทราบหรือไม่ว่า เครื่องแต่งกายที่เราใส่อยู่ทุกวัน ก็มีบทบาทในเรื่องราวของสิ่งแวดล้อม หรือเราสามารถพูดได้เลยว่า ‘วงการแฟชั่น’ ก็เป็นอีกหนึ่งในวงการที่หลายคนให้ความสำคัญ เพราะมันส่งผลกระทบต่อโลกใบใหญ่มากกว่าที่ใครหลายคนคิด
วันนี้ BrandThink จะพาทุกคนมาทำความรู้จักกับเทรนด์แฟชั่นล่าสุด ที่จะมาเขย่าวงการธรรมชาติ กับ‘กระเป๋าหนังเห็ด’ ซึ่งทำมาจาก ‘ไมซีเลียม’ (Mycelium) หรืออาจเรียกว่าวัสดุที่ปลูกจากเชื้อรา โดยสามารถนำมาดีไซน์ให้เหมือนกับหนังลูกวัวหรือหนังแกะ และออกแบบมาให้เหมือนกับกระเป๋าที่ทำจากหนังสัตว์จริงๆ
ดร.แมตต์ สคัลลิน (Dr. Matt Scullin) ซีอีโอของ MycoWorks บริษัทวัสดุชีวภาพ คาดการณ์ว่าหนังเห็ดอาจเป็นตัวเปลี่ยนเกมอย่างยั่งยืนของวงการแฟชั่น พร้อมกับปลดล็อกอนาคตของการออกแบบที่เริ่มต้นด้วยวัสดุไม่ใช่วัตถุ
โดยไฟน์ไมซีเลียม (Fine Mycelium) เป็นวัสดุที่ได้รับการจดสิทธิบัตรสามารถเติบโตจากเชื้อราในถาดได้ภายในเวลาไม่กี่สัปดาห์ เลียนแบบรูปลักษณ์และความรู้สึกของหนังสัตว์ ในขณะเดียวกันก็มีประสิทธิภาพทางความแข็งแรงและความทนทานที่เหนือกว่า ทำให้วัสดุนี้เพิ่งถูกนำไปใช้เปิดตัวในแบรนด์ชื่อดังอย่างกระเป๋าถือของแอร์เมส (Hermès) รุ่นพิเศษเช่นกัน
“มันสามารถให้ความรู้สึกทางอารมณ์เช่นเดียวกับหนังสัตว์ มันให้ความรู้สึกเหมือนเป็นของหายาก” ดร.แมตต์ สคัลลิน กล่าว อีกทั้งยังเชื่อว่าบนดาวเคราะห์ที่มีทรัพยากรธรรมชาติจำกัด ทั้งเทคโนโลยีและแนวความคิดเกี่ยวกับหนังเห็ดที่เป็นการก้าวไปสู่โลกที่คาร์บอนเป็นศูนย์รวมถึงอาจเป็นการปฏิวัติและเป็นนัยสำคัญต่อนวัตกรรมในการผลิตอื่น ๆ นอกเหนือจากแฟชั่น
นอกจากนั้น เมอร์ลิน เชลเดรก (Merlin Sheldrake) นักชีววิทยา และผู้เขียนหนังสือ Entangled Lives: How Fungi Make Our Worlds, Change Our Minds, and Shape Our Futures ยังระบุอีกว่า “เพราะเราสนใจที่จะพูดคุยเรื่องความเป็นไปได้ของเชื้อราที่จะสามารถให้เปิดใจรับกับแนวคิดใหม่ๆ และรู้สึกตื่นที่ได้สนับสนุนโลกแฟชั่นในความพยายามที่จะสร้างความยั่งยืนให้มากขึ้น เชื้อรามีศักยภาพมากมายที่จะเอาชนะปัญหาบางอย่างที่เรากำลังเผชิญ”
เมอร์ลิน เชลเดรก มีมุมมองว่า แฟชั่นที่นำหนังเห็ดมาใช้เป็นการนำเชื้อราที่มาคิดอย่างสร้างสรรค์และยั่งยืน โดยหนังเห็ดสามารถปลูกเป็นชิ้นๆ ตามรูปร่างและขนาดเฉพาะที่นักออกแบบต้องการได้ แถมช่วยขจัดความจำเป็นในการเกิดของเสีย ซึ่งจากรายงานโดยดัชนีความยั่งยืนวัสดุของฮิกก์ (Higg Materials Sustainability Index) พบว่า หนังวัวสร้างความเสียหายต่อสิ่งแวดล้อมมากกว่าวัตถุดิบอื่นๆ รวมถึงหนังสังเคราะห์ที่ทำจากพลาสติก เนื่องจากมีการตัดไม้ทำลายป่าและการปล่อยก๊าซเพื่อเลี้ยงสัตว์
ด้วยสินค้าประเภทเครื่องหนังที่คิดเป็น 15 เปอร์เซ็นต์ของตลาดสินค้าฟุ่มเฟือยในปี 2019 ตามรายงานของ Statista Consumer Market Outlook Luxury Leather Goods อาจะเป็นทางเลือกที่สร้างความยั่งยืนต่อวงการแฟชั่น เพราะนอกจาก MycoWorks แล้วยังมี Bolt Threads บริษัทวัสดุชีวภาพอีกแห่งหนึ่งในรัฐแคลิฟอร์เนียที่ทำงานกับตลาดหนังเห็ด โดยร่วมมือกับ Stella McCartney ในกระเป๋าถือที่จัดแสดงที่ปารีสแฟชั่นวีค และกำลังพัฒนาผลิตภัณฑ์กับอาดิดาส (Adidas) อีกด้วย
แม้เห็ดอาจไม่มีภาพลักษณ์ที่เย้ายวนใจ แต่หนังจากเชื้อราได้กลายเป็นวัสดุพิเศษ ซึ่งได้รับความนิยมในหมู่สตูดิโอออกแบบแฟชั่นชั้นสูงที่ใช้ผ้าแคชเมียร์และผ้าไหมออร์แกนซา
แต่เพื่อสร้างความยั่งยืน วัสดุจะต้องสามารถเข้าถึงได้ในราคาที่ต่ำกว่า “เรากำลังทำงานกับแฟชั่นสุดหรูเป็นอันดับแรก เพราะพวกเขาอยู่เหนือคู่แข่งในด้านความยั่งยืน แบรนด์เหล่านี้เป็นแบรนด์ที่สามารถคิดใหญ่และคิดระยะยาวได้” ดร.แมตต์ สคัลลิน กล่าว
โดยแบรนด์ต่างๆ อย่างบริษัท MycoWorks เองกำลังจะเปิดโรงงานแห่งที่สองในประเทศสหรัฐฯ ซึ่งการขยับขยายนี้ทำให้แบรนด์ต่างๆ มั่นใจได้ว่า วัสดุนี้นำไปใช้ในวงการแฟชั่นหรือในเบาะรถยนต์มีความเป็นไปได้และเพียงพอแน่นอน
ด้วยความที่วัสดุสามารถปลูกในถาดได้ภายในไม่กี่สัปดาห์ นักชีววิทยาจึงเตือนว่าการออกแบบที่ไม่ละเอียดอ่อนอาจบ่อนทำลายคุณสมบัติที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมของไมซีเลียม โดยหากกระเป๋าถือหรือแจ็คเก็ตผลิตขึ้นโดยนำส่วนประกอบอื่นๆ อาทิ ขอบกระเป๋า กาวและตัวยึด ซึ่งไม่สามารถย่อยสลายได้ทางชีวภาพ การทำเช่นนี้จะทำลายผลดีของการใช้หนังเห็ด เพราะสุดท้ายก็จะมีส่วนประกอบอื่นที่ทำลายสิ่งแวดล้อมได้อยู่ดีนั่นเอง
ดร.แมตต์ สคัลลินกล่าวเพิ่มเติม “เราสามารถนำความสามารถในการย่อยสลายทางชีวภาพมาสู่แบรนด์ต่าง ๆ ได้ แต่ยังคงมีปัญหาใหญ่ในอุตสาหกรรมเกี่ยวกับการคิดอย่างยั่งยืน”
เมอร์ลิน เชลเดรก ยังกล่าวทิ้งท้ายด้วยความเชื่อว่า เชื้อราจะสามารถถ่ายทอดความคิดเกี่ยวกับแฟชั่นได้ในหลายระดับ เพราะนี่เป็นเรื่องเกี่ยวกับนวัตกรรมทางวัตถุ ทั้งวัฒนธรรมของการสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ ไม่รู้จบ และได้บทเรียนจากการคิดในแง่ของธรรมชาติและวัฏจักรแทน
สุดท้ายนี้ถือเป็นหนึ่งก้าวการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญและสร้างสรรค์ต่อวงการแฟชั่นที่จะช่วยลดการเบียดเบียนสัตว์ และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากยิ่งขึ้น
เพราะปัญหา ‘Climate Change’ คือเรื่องของทุกคน มาร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการกู้โลกได้ง่ายๆ จาก’ตู้เสื้อผ้าของคุณ’ กับแคมเปญ #โละตู้กู้โลก เพียงส่งเสื้อผ้าตัวเก่ามาให้เรา ก็เท่ากับช่วยโลก! เพราะเราจะนำไปรีไซเคิลเป็นเสื้อตัวใหม่ เพื่อส่งเสริมการหมุนเวียนใช้ทรัพยากรแบบไม่ให้เหลือทิ้งและสนับสนุนแฟชั่นยั่งยืน
ร่วมส่งต่อเสื้อผ้าไปรีไซเคิลได้ตั้งแต่ วันนี้ – 24 ธ.ค. 2564
ลงทะเบียนได้ที่ www.greenwave.fm
ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติม: @Heart in action volunteers
อ้างอิง
- theguardian. Californian firm touts ‘mushroom leather’ as sustainability gamechanger. https://bit.ly/3rPyJ7Z
#โละตู้กู้โลก #ByeByeMyClothes #KrungthaiAXAlife #Greenwave1065