“เผด็จการมีชีวิต ศิลปะจึงถูกคุกคาม” ย้อนดูชะตากรรมศิลปะในยุคสมัยฮิตเลอร์

2 Min
954 Views
24 Mar 2021

​ในช่วงเวลาที่ฮิตเลอร์ครองอำนาจ เขาได้ลงมือทำลายศิลปวัตถุจำนวนกว่าล้านชิ้น ทั้งเผาทำลาย และยึดเอาขายเป็นทุนรอนของพรรคนาซี

ศิลปะที่ถูกเพ่งเล็งเป็นพิเศษ คือ ศิลปะสมัยใหม่ (Modern Art) และศิลปะนามธรรม (Abstract Art)

แม้ฮิตเลอร์จะมีความรักให้ศิลปะแบบสัจนิยม (Realism Art) แต่​​เขากลับเกลียดชังศิลปะสองประเภทข้างต้นถึงขั้น ‘เข้าไส้’ เขาบอกว่า ศิลปะสมัยใหม่บิดเบือนความเป็นจริง ทำให้ไม่เห็นสีสันและรูปทรงที่แท้ของธรรมชาติ ถ้าคนเยอรมันเสพศิลปะเหล่านั้น จะทำให้จิตใจบิดเบี้ยว แปดเปื้อน

ฮิตเลอร์ในนิทรรศการ “ศิลปะเสื่อมทราม”

ฮิตเลอร์ในนิทรรศการ “ศิลปะเสื่อมทราม” | The New York Times

เขาจึงบัญญัติชื่อให้งานศิลปะเหล่านั้นใหม่ให้เป็น ‘ศิลปะเสื่อมทราม’ (Degenerate Art) และมุ่งมั่นจะกำจัดศิลปะแนวนั้นให้หมดสิ้นไป

“จากนี้ไป เราจะเริ่มต้นทำสงครามอย่างไม่หยุดหย่อน สงครามแห่งการชำระล้าง สงครามที่จะไล่ล่าทำลายล้างอะไรก็ตามที่จะมาเป็นปฏิปักษ์ต่อศิลปะของเรา”

ฮิตเลอร์กล่าวไว้ในสุนทรพจน์ วันที่ 19 กรกฎาคม ปีค.ศ. 1937 ที่งาน Great German Art Exhibition เมือง Munich

​​แน่นอนว่ากลุ่มเคลื่อนไหวทางศิลปะสมัยใหม่ เช่น ลัทธิคิวบิสม์ (Cubism) อิมเพรสชั่นนิสม์ (Impressionism) ดาด้า (Dada) เซอร์เรียลลิสม์ (Surrealism) โฟวิสม์ (Fauvism) เอ็กซ์เพรสชั่นนิสม์ (Expressionism) และอื่นๆ เหล่านี้ล้วนได้รับผลกระทบจากนโยบายของฮิตเลอร์

ศิลปินในยุคสาธารณรัฐไวมาร์อย่าง ‘ออตโต ดิกซ์ (Otto Dix)’ ถูกนาซีหมายหัว ในฐานะศิลปินชั้นต่ำที่ทำให้ภาพลักษณ์ของสาธารณรัฐเสื่อมทราม

Otto Dix

Otto Dix | Wikipedia

​​รู้จักกับออตโต ดิกซ์ (Otto Dix)

ดิกซ์เป็นจิตรกรที่ไม่ได้ต้องการเรียกร้องความเห็นอกเห็นใจให้แก่วีรบุรุษสงคราม บางครั้งทหารในภาพวาดของดิกซ์ก็ทำกิจกรรมน่าหวาดระแวง เช่น เล่นไพ่ และเขายังวาดภาพทหารผ่านศึกในรูปแบบที่ร่างกายพิกลพิการ อมนุษย์เหล่านี้เป็นภาพสะท้อนลัทธิชาตินิยม และทหารนิยมอันอัปลักษณ์ที่นำพาเยอรมนีไปสู่โศกนาฏกรรมในปี 1919

“ตอนนั้นในไวมาร์ มีแต่คนตีพิมพ์หนังสือยกย่องวีรกรรมของทหาร ไอ้แนวคิดพรรค์นี้มันล้าสมัยไร้แก่นสารไปตั้งแต่หลังสงครามโลกแล้ว ผู้คนเริ่มลืมเลือนหายนะอันแสนเจ็บปวด”

ดิกซ์กล่าวถึงที่มาของภาพวาดชิ้นเอก ‘Der Kreig (สงคราม)’ 

รูปวาด Der Kreig

รูปวาด Der Kreig | Wikipedia

เมื่อฮิตเลอร์เห็นภาพวาดของเขาเป็นครั้งแรก ก็ประกาศกร้าวว่า “มันเป็นความอัปยศอย่างมากที่เราไม่สามารถจับคนเหล่านี้เข้าคุกได้”

​​ดิกซ์ถูกกดดันให้ออกจากงานในสถาบันศิลปะ

ผลงานหลายชิ้นของดิกซ์ถูกเผา อีกทั้งเขาถูกบีบบังคับให้เข้าร่วมในสภาวิจิตรศิลป์ของอาณาจักรไรซ์ ซึ่งอยู่ภายใต้ชายคาของกระทรวงวัฒนธรรม ในการควบคุมของ ‘โยเซ็ฟ เกิบเบิลส์ (Joseph Goebbel)’ รัฐมนตรีกระทรวงข่าวสารและโฆษณาชวนเชื่อ

ดิกซ์ถูกบังคับให้สาบานว่าจะวาดแต่ภาพทิวทัศน์อันเรียบง่าย ไม่ก้าวร้าวรุนแรง และถูกบังคับให้วาดภาพเชิดชูอุดมการณ์ของลัทธินาซี เช่นเดียวกับศิลปินเยอรมันหลายคนในยุคนั้น

นอกเหนือจากดิกซ์แล้ว ก็ยังมี ‘วาซิลี คานดินสกี้ (Wassily Kandinsky)’ ศิลปินนามธรรมคนสำคัญ ก็ถูกคุกคามจากเผด็จการเช่นกัน

Wassily Kandinsky

Wassily Kandinsky | Wikipedia

ในช่วงปี 1937 นาซียึดภาพวาดของคานดินสกี้จำนวน 57 ภาพ

นี่ถือเป็นหนึ่งในภารกิจกวาดล้าง ‘ศิลปะชั้นเลว’ ตามนโยบายของฮิตเลอร์

ถ้าถามว่าทำไมงานศิลปะแนวนามธรรม อย่างเช่น งานของคานดินสกี้ หรือของดิกซ์ ถึงเป็นที่จงเกลียดจงชังในยุคนั้นนัก หนึ่งในเหตุที่เป็นไปได้ ก็น่าจะเพราะศิลปะแนวนี้ มันกระตุ้นให้คนใช้สมอง และเปิดโอกาสให้คนแสดงออกทางความคิดอย่างเสรี…

ซึ่งเป็นสิ่งที่ผู้นำ ‘เผด็จการ’ อย่างฮิตเลอร์ไม่ต้องการ

อ้างอิง:

  • Matichonweekly. นาซีกับศิลปะ จอมเผด็จการผู้หลงใหลในศิลปะ. https://bit.ly/3973IlW
  • Matichonweekly. นาซีกับศิลปะ การกวาดล้างศิลปะเสื่อมทราม ของจอมเผด็จการ (จบ). https://bit.ly/393G6hW
  • Der Fuehrer. Adolf Hitler: Speech in Munich. https://bit.ly/3lFD1db
  • ภาณุ ตรัยเวช. ในสาธารณรัฐไวมาร์ ฮิตเลอร์ไม่ได้มาจากการเลือกตั้ง. มติชน. 2559