จาก ‘อมรินทร์พริ้นติ้ง แอนด์ พับลิชชิ่ง’ สู่ ‘อมรินทร์ คอร์เปอเรชั่นส์’ ชื่อใหม่ที่สะท้อนความ ‘ครบเครื่อง’ มากกว่าเดิม

ถ้าพูดถึงชื่อ ‘อมรินทร์’ เชื่อว่าไม่มีใครไม่รู้จักชื่อนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งแฟนหนังสือ นิตยสาร หรือแฟนข่าว ก็คงจะรู้กันดีว่าอมรินทร์​นั้นเป็นสื่อน้ำดีเจ้าหนึ่งที่อยู่ในวงการนี้มากกว่า 40 ปีแล้ว

จากนิตยสาร ‘บ้านและสวน’ ฉบับแรกในปี 2519 เติบโตสู่ธุรกิจโรงพิมพ์และสำนักพิมพ์ กิจการด้านการจัดจำหน่ายและจัดตั้งร้านค้าปลีกที่เราคุ้นหน้าคุ้นตาอย่าง ‘ร้านนายอินทร์’ และที่ผู้บริโภคอย่างเรารู้กันคือ ตอนนี้อมรินทร์ ไม่ใช่เพียงแค่สำนักพิมพ์หรือร้านหนังสืออีกต่อไปแล้ว แต่ยังมีธุรกิจอื่นๆ ที่หลากหลายมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจด้านออนไลน์ ธุรกิจด้านอีเวนต์ ธุรกิจด้านดิจิทัล และยังมีโอกาสที่จะขยายกิจการในด้านอื่นๆ ในอนาคตด้วย

ปัจจุบัน ‘บริษัท อมรินทร์พริ้นติ้ง แอนด์ พับลิชชิ่ง จำกัด (มหาชน)’เปลี่ยนชื่อเป็น ‘บริษัท อมรินทร์ คอร์เปอเรชั่นส์ จำกัด (มหาชน)’ (AMARIN CORPORATIONS PUBLIC COMPANY LIMITED) นำโดย คุณระริน อุทกะพันธุ์ ปัญจรุ่งโรจน์ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัทอมรินทร์ คอร์เปอเรชั่นส์ จำกัด(มหาชน) เพื่อให้สอดคล้องกับวิสัยทัศน์และกลยุทธ์ในการดำเนินธุรกิจที่จะมุ่งเน้นไปสู่ Omni Media – Omni Channel ที่ไม่ใช่แค่เยอะ แต่ต้องเชื่อมต่อกันด้วย การเปลี่ยนชื่อครั้งนี้จึงช่วยสะท้อนความครบเครื่องของเครืออมรินทร์ออกมานั่นเอง

ซึ่งความครบเครื่องที่ว่านี้ก็เห็นได้จากโครงสร้างธุรกิจของอมรินทร์ กรุ๊ป ที่มีถึง 5 ธุรกิจด้วยกัน คือ

1. PRINTING & PACKAGING BUSINESS ธุรกิจสิ่งพิมพ์และบรรจุภัณฑ์

ที่ให้บริการได้ตั้งแต่การพิมพ์หนังสือ เล่มเดียวไปจนถึงหลักล้านเล่ม ซึ่งเจ๋งตรงที่ว่าต่อให้เราไม่มีรูปเล่มหรือดีไซน์อะไรในหัวเลย ก็ให้ไปคุยกับอมรินทร์ก่อน เพราะเขาพร้อมที่จะเป็นพาร์ตเนอร์ที่ช่วยออกแบบให้เราได้ด้วย นอกจากนี้อมรินทร์ยังมุ่งพัฒนาไปที่ธุรกิจด้านการพิมพ์บรรจุภัณฑ์อื่นๆ ด้วย เช่น การพิมพ์บรรจุภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับวัสดุสัมผัสอาหาร เรียกได้ว่าสามารถอำนวยความสะดวกให้ลูกค้าได้แบบครบวงจรเลย

แถมปีนี้อมรินทร์ยังเพิ่มความใส่ใจด้านสิ่งแวดล้อมด้วยสัญลักษณ์ AM Green ที่สื่อว่าผลิตภัณฑ์ชิ้นนั้นๆ ผลิตจากวัตถุดิบและกระบวนการผลิตที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและสอดคล้องกับหลักการความยั่งยืน (Sustainability) ด้วย

2. PUBLISHING BUSINESS ธุรกิจสำนักพิมพ์

ที่ตอนนี้มีนโยบายในการอำนวยความสะดวกให้กับลูกค้าแบบสุดๆ ด้วยการรังสรรค์ให้ลูกค้าสามารถเลือกรูปแบบการอ่านได้มากมายทั้งการอ่านในหนังสือ อ่านแบบดิจิทัล หรือจะเป็นแบบออดิโอก็ยังได้ แถมอมรินทร์ยังจะพัฒนา Multi-Platform นี้ให้ใช้ได้ทั้งกับเด็กและผู้ใหญ่เลยด้วย

ที่สำคัญ ตัวไฮไลต์ต้องยกให้ Text to Speech ที่แรกที่เดียว ในไทยกับฟังก์ชันอ่านออกเสียง บนแอปพลิเคชัน ‘Naiin’ (นายอินทร์) แถมใช้ได้ฟรี เพียงแค่ซื้อ E-book กับนายอินทร์เท่านั้น

3. AMARIN MEDIA & EVENT ธุรกิจมีเดียแอนด์อีเวนต์

ที่ประสานกับสื่อนิตยสาร สื่อออนไลน์ ไปจนถึงธุรกิจจัดงานแฟร์และอีเวนต์ ที่จะเป็นพาร์ตเนอร์ในการช่วยให้ลูกค้าของอมรินทร์สามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพด้วยข้อมูลและการร่วมงานกับทีมงานคุณภาพที่เชี่ยวชาญด้านนี้โดยเฉพาะอย่าง CJ Work ผู้นำด้านแพลตฟอร์มจัดการข้อมูล ที่จะทำให้ลูกค้าของอมรินทร์เข้าถึงลูกค้าได้อย่างตรงจุด แม่นยำ และมีประสิทธิภาพมากขึ้น

อย่างงานแฟร์ของอมรินทร์ที่ในปีนี้เราก็ได้เห็นกันแล้ว เช่น บ้านและสวนแฟร์ select 2023 และ Baby & Kids Fair ครั้งที่ 24 ที่จัดไปในช่วงเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ก็ได้รับเสียงตอบรับอย่างดี มั่นใจได้ว่าอมรินทร์จะช่วยให้ลูกค้าทุกคนเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้แน่นอน

และอีกงานสำคัญในปีนี้ คือ อมรินทร์จะขยายการจัดงานแฟร์เพิ่มขึ้นอีกหนึ่งงาน ได้แก่ งาน AMARIN Expo ที่จัดในวันที่ 24-28 พฤษภาคม นี้ ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ เป็นงานแฟร์ใหม่ที่เกิดขึ้นโดยการผนึกกำลังของ Amarin Group ร่วมกับพันธมิตร หลากหลายธุรกิจ เพื่อสร้างสรรค์งานแฟร์แห่งปี ที่รวมความสุขให้กับทุกคนในครอบครัว ผ่านสาระความรู้และความสนุก เปิดพื้นที่ให้ทุกคนมาพบปะ สร้างประสบการณ์ใหม่ กับ 5 โซน ได้แก่ บ้านและสวน, Amarin Baby & Kids, กินดีอยู่ดี, บ้านและสวน Explorers และร้านนายอินทร์ พร้อมกิจกรรม เช่น Meet & Greet และ Mini Concert จากศิลปินชื่อดัง พิธีกร ผู้ประกาศข่าวจาก Amarin TV รวมถึงเสวนาที่น่าสนใจ และ Workshop อีกมากมาย ที่แรกที่มีทุกอย่างในเครืออมรินทร์ เรียกได้ว่าไปงานเดียวคุ้มจุใจเลย

4. AMARIN BOOK CENTER ธุรกิจจัดจำหน่ายสื่อสิ่งพิมพ์ และ Digital Content

ที่เป็นธุรกิจ On Shop จากอมรินทร์บุ๊ค เซ็นเตอร์ ที่มีร้านจัดจำหน่ายมากกว่า 700 แห่งทั่วไทย ซึ่งธุรกิจนี้ก็รวมร้านค้าปลีกอย่างร้านนายอินทร์ และแพลตฟอร์มออนไลน์ที่มีลูกค้ากว่า 26 ล้านรายต่อปี

แอบกระซิบว่า ตอนนี้อมรินทร์เขามีแพลตฟอร์มใหม่อย่าง Mareads ที่เอาไว้อ่านนิยายแบบเป็นตอนๆ มาให้บริการกันแล้วด้วยนะ นับว่าเป็นธุรกิจที่ช่วยในการขยายฐานการอ่านและช่วยให้การรองรับลูกค้ากลุ่มต่างๆ มีประสิทธิภาพมากขึ้น

5. AMARIN TELEVISION ธุรกิจทีวีดิจิทัล

ที่คุ้นตากันดีในช่อง AMARIN TV 34HD สื่อทีวี TOP 7 ของประเทศไทย ที่รวบรวมรายการคุณภาพไว้มากมาย ซึ่งธุรกิจนี้ก็มีการเติบโตขึ้นมากในแพลตฟอร์มออนไลน์ ตามแนวคิด Real Life Entertainment ที่ทำให้ไม่ว่าจะดูรายการไหนก็ตาม ผู้ชมจะได้อะไรไปใช้ในชีวิตประจำวันมากกว่าเพียงแค่ความบันเทิงแน่นอน ซึ่งต่อจากนี้จะเป็นทั้งธุรกิจทีวีและออนไลน์ ที่จะเข้ามามอบความสะดวกแก่ผู้ชม ในการดูทีวีได้ทุกที่ทุกเวลากันเลย

นอกจากนี้อมรินทร์ยังได้ร่วมทุนกับ 2 บริษัทเพื่อเปิดตลาดใหม่ๆ อย่าง บริษัท คาโดคาวะ อมรินทร์ จำกัด ซึ่งเป็นผู้นำในเรื่อง Light Novel และ Manga และบริษัท เด็กดี อินเตอร์แอคทีฟ จำกัด ผู้นำตลาดนิยายและ Education Platform ที่จะเข้ามาช่วยให้ผู้บริโภคอย่างเราๆ มีตัวเลือกในการอ่านหลากหลายมากขึ้น

นอกจากธุรกิจสื่อแล้วอมรินทร์ยังให้ความสำคัญกับความยั่งยืนควบคู่กันมาตลอด ทั้งลดการใช้พลังงาน หรือสิ่งพิมพ์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และในปีนี้อมรินทร์ก็ได้เปิดตัวโครงการ ‘อมรินทร์ อาสา’ ภายใต้แนวคิด Growing Together Towards Sustainability โดยแต่ละโปรเจกต์จะมีส่วนช่วยสนับสนุนสังคมให้เกิดการพัฒนา โดยในปีนี้อมรินทร์ก็มาพร้อมกับ 2 โครงการดีๆ อย่างโครงการ “หนึ่งหัวใจ สู่ชีวิตใหม่” ซึ่งเป็นความร่วมมือกับมูลนิธิโรงพยาบาลเด็ก โดยสถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี, บริษัท ซีเจเวิร์ค จำกัด (CJ WORK) และค่ายเพลง WHAT THE DUCK ผ่านรูปแบบมิวสิคแคมเปญ โดยมีเป้าหมายหลักในการระดมทุน 50 ล้านบาท เพื่อช่วยเหลือเด็กที่ป่วยด้วยโรคหัวใจพิการแต่กำเนิดขั้นวิกฤต และโครงการ “อ่านพลิกชีวิต” ร่วมบริจาคหนังสือจำนวน 150,000 เล่ม ให้ห้องสมุดโรงเรียนกว่า 1,000 แห่งทั่วประเทศ
เป็นโครงการดีๆ ที่อมรินทร์พร้อมจะคืนประโยชน์สู่สังคม และจะทำให้ทุกคนได้มีส่วนร่วมในการเติบโตไปพร้อมกับอมรินทร์

จากผลประกอบการของอมรินทร์ในปีนี้ จะเห็นว่าอมรินทร์เติบโตขึ้นจากปีก่อนถึง 44.4 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งก็มาจากการเติบโตของธุรกิจต่างๆ ที่อมรินทร์มุ่งมั่นตั้งใจพัฒนาและปรับให้ทันโลกมากขึ้น และในแผนพัฒนาปี 2023-2025 นี้ อมรินทร์ก็ตอกย้ำการเป็นสื่อน้ำดีด้วยการลงทุนกว่า 2,100 ล้านบาท ในธุรกิจใหม่ๆ และพัฒนาต่อยอดสิ่งที่มีอยู่ให้ดียิ่งขึ้นไปอีก เชื่อมั่นได้ว่าอมรินทร์จะอยู่คู่กับคนไทยไปอีกนานแน่นอน

อมรินทร์กลับมาอย่างยิ่งใหญ่ในปีนี้ จาก ‘อมรินทร์พริ้นติ้ง แอนด์ พับลิชชิ่ง’ สู่ ‘อมรินทร์ คอร์เปอเรชั่นส์’ การเปลี่ยนแปลงที่สะท้อนให้เห็นความตั้งใจของอมรินทร์ที่เป็นมากกว่าธุรกิจสื่อสิ่งพิมพ์ และพร้อมเดินหน้าพัฒนาอย่างยั่งยืนไปด้วยกัน ทั้งในอดีต ปัจจุบัน และอนาคต อย่างที่อมรินทร์เคยบอกไว้ว่า “เราทำงานเพื่อความสุขและความรุ่งโรจน์ของสังคม” จริงๆ