ความขี้เกียจในชีวิตของเรานั้นช่างเกิดขึ้นมาได้ง่ายดาย จนบางคนอาจสงสัยว่า จริงๆ แล้วความรู้สึกขี้เกียจที่เรามีอยู่ตอนนี้มันมากเกินไปจนผิดปกติ เอ๊ะ? หรือนี่คือสัญญาณของความซึมเศร้า หรือเปล่าน
วันนี้ MOODY จะพาทุกคนมาทำความเข้าใจกับความรู้สึกนี้กัน
สำหรับ ความขี้เกียจ มักจะเกิดขึ้นจากความเหนื่อยล้าสะสมเป็นช่วง อย่างเช่น ถ้าทั้งสัปดาห์เราผ่านการทำงานหรือใช้พลังงานที่หนักๆ มา เราก็อยากจะมีวันพักผ่อนบ้าง นอนบนเตียง ดูซีรีส์ที่ชอบ สั่งอาหารจานโปรดมากิน ดังนั้น บางทีความรู้สึกขี้เกียจก็อาจเป็นสัญญะให้เราอนุญาตให้ตัวเองได้รับการพักผ่อนในรูปแบบหนึ่ง
แต่ความซึมเศร้านั้นต่างออกไป เราจะไม่อยากลุกจากเตียง แม้กระทั่งกับสิ่งที่ชอบ ความชอบที่เคยมีกลับไม่สนุกอีกต่อไปแล้ว แต่เป็นความรู้สึกไม่ตื่นเต้น ไม่รอคอย และสิ้นหวัง ซึ่งระยะเวลาของความรู้สึกซึมเศร้าจะอยู่นานกว่าความขี้เกียจ
แน่นอนว่าเราทุกคนนั้นต่างมีวันที่ขี้เกียจ ความขี้เกียจนั้นมีข้อดีที่ทำให้เราได้ทำตามใจตัวเอง และได้พักผ่อนอย่างเต็มที่จริงๆ ปราศจากเรื่องงานให้คิด เรื่องหนักใจหรือเรื่องที่เราไม่อยากจะรับรู้มันในบางครั้งบางครา
แต่หากช่วงไหนที่เริ่มรู้สึกว่า ตัวเองเริ่มขี้เกียจผิดปกติ นี่อาจถึงเวลาที่เราต้องมองลึกลงไปกว่านั้น ว่าจริงๆ แล้วเราแค่ขี้เกียจเฉยๆ หรือเริ่มตกอยู่ในสภาวะซึมเศร้าแล้วนะ
1 – เพราะเราไม่รู้สึกถึงค่านิยมของชีวิต (Value)
เราทุกคนย่อมมีค่านิยมของชีวิตเป็นของตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นค่านิยมในความสัมพันธ์ หรือได้ทำงานที่ตรงกับค่านิยมที่มี
แต่เมื่อไรก็ตามสิ่งที่กำลังทำเริ่มไม่ตรงกับค่านิยมที่คุณมี หรือเริ่มสั่นคลอน หรือหายไป ก็อาจทำให้คุณหมดใจ ไร้เรี่ยวแรง จึงอาจถึงเวลาต้องทบทวนตัวเองอีกครั้งแล้วว่า จะจัดการกับชีวิตตัวเองอย่างไรดี เพื่อให้กลับมามีไฟเช่นเดิม
2 – เพราะติดโซเชียลมีเดียมากไป
บางครั้งเราใช้เวลาทั้งวันไปกับการไถฟีดในโซเชียล ซึ่งการรับรู้ชีวิตผู้อื่นหรือข่าวสารเป็นทั้งข้อดีและข้อเสีย
แต่หากเล่นมากไปจนเผลอเสพติดโดยไม่ทันรู้ตัว ก็ทำให้เราขี้เกียจ รวมถึงไม่มีแรงบันดาลใจที่ดีต่อตัวเองได้ เพราะเราจะเปรียบเทียบชีวิตตัวเองกับคนอื่น ดังนั้น รู้ตัวให้ไว หาวิธีลด ด้วยการตั้งค่าฟังก์ชันในสมาร์ทโฟน หรือไม่ก็ลบมันเสีย แล้วค่อยโหลดใหม่ในวันหยุด
3 – ขี้เกียจเพราะมีสิ่งให้ทำมากเกินไป
ภาระความรับผิดชอบเป็นสิ่งที่ทุกคนย่อมมี แต่ถ้ามากเกินกำลังเราก็อาจทำให้ท้อใจกับตัวเอง จนทำให้เรารู้สึกขี้เกียจได้ ดังนั้น การกำหนดขอบเขตและระยะเวลาวางแผนการทำงาน จึงเป็นสิ่งสำคัญ
ยกตัวอย่าง บางคนทำงานที่บ้าน การลุกไปอาบน้ำแต่งตัวเหมือนจะไปทำงาน เพื่อสร้างความรู้สึกกระปรี้กระเปร่าก็อาจช่วยให้เราทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
4 – เพราะพึ่งพาสารเสพติด
ความขี้เกียจและภาวะซึมเศร้าอาจมีผลมาจากการใช้สารเสพติด ไม่ว่าชนิดไหนก็ย่อมให้ความรู้สึกดีชั่วครั้งชั่วคราว และจากนั้นมันจะทำให้เราติดอยู่ในความรู้สึกเซื่องซึมและไม่สดใส แล้วสุดท้ายมันจะทำให้เรารู้สึกหดหู่ได้
บางครั้งการที่เราตัดสินใครบางคนที่ดูท่าทางขี้เกียจ ว่าเขาเป็นคนขี้เกียจ อาจเป็นการแปะป้ายพวกเขาโดยไม่รู้ตัว ว่าความจริงแล้วพวกเขาอาจกำลังเผชิญกับการเริ่มต้นของสภาวะซึมเศร้า จากสิ่งที่ต้องรับมืออยู่ก็เป็นได้
ดังนั้น วิธีที่จะช่วยพวกเขาคือ คอยสนับสนุนพวกเขาให้ลุกขึ้นมาทำอะไรใหม่ๆ แม้ว่าอาจต้องให้เวลาพวกเขาพักให้เต็มที่ไปก่อน และให้เลี่ยงใช้คำว่าขี้เกียจ
อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าในตอนนี้เราอาจมีความขี้เกียจหรือซึมเศร้า ความรู้สึกนั้นย่อมเป็นเรื่องปกติของชีวิต เราอาจมีวันอย่างนั้นบ้าง แต่ถ้ามากเกินไป MOODY ก็อยากชวนทุกคนมาสำรวจตัวเองกันดูถึงความรู้สึกเหล่านั้น และอย่าลืมให้กำลังใจตัวเอง ไม่กดดันตัวเองมากเกินไปด้วยนะ เพราะทุกความรู้สึกที่เกิดขึ้นย่อมต้องใช้เวลาเพื่อที่เราจะเข้าใจและอยู่กับมันได้
อ้างอิง
Am I Depressed or Lazy https://urlis.net/0m7krm9g