ALL NEW MG5 รถยนต์คันที่ใช่ ตอบโจทย์กลุ่มคนรุ่นใหม่ ที่ต้องการความโดดเด่นและแตกต่าง
วันนี้ BrandThink จะพาทุกคนมาทำความรู้จักกับ ALL NEW MG5 ที่ขอบอกเลยว่าเป็นรถยนต์อีกหนึ่งรุ่นที่ถูกพัฒนามาอย่างดี ไม่ใช่แค่รูปลักษณ์ที่โดนใจ แต่ยังให้เทคโนโลยีที่มากกว่า เชื่อว่าน่าจะถูกใจ และตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ได้แน่นอน
ALL NEW MG5 โดดเด่นอย่างไร เหนือชั้นกว่ารถยนต์ในกลุ่มเดียวกันขนาดไหน มาติดตามกันทีละประเด็น
“BEYOND” ความเหนือกว่าที่เป็นเอกลักษณ์เหมาะสำหรับคนรุ่นใหม่
ต้องเล่าให้ฟังก่อนว่า แนวทางการพัฒนารถยนต์ของเอ็มจีประกอบไปด้วย 3 แกนหลัก ได้แก่ เทคโนโลยี (Technology) ความทันสมัย (Fashion) และ ความคุ้มค่า (Value) ซึ่ง ALL NEW MG5 ก็สะท้อนสิ่งเหล่านี้ออกมาได้อย่างชัดเจน
ALL NEW MG5 มาในคอนเซ็ปต์ “BEYOND” เจาะกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่ต้องการความโดดเด่นและแตกต่าง หากมองภายนอกเราจะเห็นเลยว่า รถยนต์คันนี้ เป็นรถยนต์ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว มีรูปลักษณ์โฉบเฉี่ยวสไตล์สปอร์ตคูเป้ซีดาน
นับเป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับคนรุ่นใหม่ที่ชอบรถยนต์นั่งสไตล์สปอร์ตกันอยู่แล้ว ซึ่งทางเอ็มจีตั้งใจพัฒนามาให้เหนือชั้นกว่ารถยนต์ในกลุ่ม B-segment รวมไปถึงกลุ่ม Eco-Car เพื่อก้าวข้ามกรอบและขีดจำกัดเดิมๆ
หลายฝ่ายมองว่าหลังจากเปิดตัว ALL NEW MG5 รถยนต์รุ่นนี้จะเป็นอีกรุ่นที่ได้รับความนิยม เพราะเข้าใจไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคยุคใหม่ได้อย่างดี และที่สำคัญสามารถมอบประสบการณ์ที่เหนือชั้นกว่าให้กับผู้ขับขี่ได้อีกด้วย
โฉบเฉี่ยวเร้าใจกับดีไซน์ที่เหนือชั้น
ภายนอกโดดเด่น จากการออกแบบเพื่อภาพลักษณ์ของผู้ขับขี่ มาพร้อมกระจังหน้า 3 มิติ ดีไซน์ใหม่ล่าสุด DIGITAL BURNING GRILLE ฉีกกรอบดีไซน์เดิมๆ
เพิ่มความคล่องตัวทุกองศา ตัวรถเพรียวยาวตามสไตล์สปอร์ตคูเป้ เพิ่มความโปร่งสบาย โฉบเฉี่ยวด้วยล้ออัลลอยด์ขนาด 17 นิ้ว ดีไซน์ใบพัด 5 ก้าน
ไฟหน้าอัตโนมัติแบบ LED PROJECTOR จัดเต็มทุกความสปอร์ต ไฟท้ายแบบ LED ดีไซน์ LEOPARD CLAW ไฟส่องสว่างสำหรับการขับขี่เวลากลางวัน (Daytime Running Lights) และไฟเบรกดวงที่ 3 แบบ LED
ขับขี่สนุกตอบโจทย์ได้ในทุกรูปแบบการใช้ชีวิต
ALL NEW MG5 มาพร้อมเครื่องยนต์เบนซินขนาด 1.5 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 114 แรงม้า ขับเคลื่อนด้วยระบบเกียร์อัตโนมัติแบบ CVT 8 สปีด ช่วงล่างแบบ EURO TUNING SUSPENSION ควบคุมได้อย่างเหนือชั้น คอนโซนกลางแบบ DRIVER-FOCUS COCKPIT ดีไซน์มาให้อยู่ในองศาที่เหมาะสมกับตำแหน่งของคนขับ หน้าจอแสดงผลการขับขี่แบบดิจิตอล
รวมถึง ระบบพวงมาลัย Rack and Pinion ควบคุมด้วยไฟฟ้า (EPS) ระบบช่วงล่างหน้า MacPherson Strut พร้อมเหล็กกันโครง ระบบช่วงล่างหลัง Torsion Beam และระบบเบรกมือไฟฟ้า EPB (Electronic Parking Brake)
มั่นใจได้เรื่องความปลอดภัย เพราะ MG ก็ใส่มาให้แบจัดเต็ม
จัดเต็มด้านความปลอดภัย ตั้งแต่โครงสร้างตัวถังนิรภัยแบบ FSF (Full Space Frame) ดิสก์เบรก 4 ล้อ และยังมาพร้อมระบบความปลอดภัยมาตรฐานยุโรป (Synchronized Protection System) ที่ทำงานประสานกันเป็นหนึ่งเดียว สร้างความมั่นใจให้กับผู้ที่ขับขี่ ไม่ว่าจะเป็นระบบป้องกันล้อล็อก ABS ระบบกระจายแรงเบรก EBD ระบบเสริมแรงเบรกด้วยอิเล็กทรอนิกส์ EBA ระบบป้องกันการไหลของรถโดยไม่ต้องเหยียบเบรกค้าง ระบบควบคุมการทรงตัวในขณะเข้าโค้ง ระบบป้องกันล้อหมุนฟรีและการลื่นไถล ระบบช่วยการออกตัวบนทางลาดชัน ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ ระบบช่วยเตือนเมื่อต้องการเปลี่ยนเลน ระบบช่วยเตือนมุมอับสายตา กล้องมองภาพรอบทิศทางแบบ 3 มิติ ถุงลมนิรภัย 6 ตำแหน่ง และอื่นๆ อีกมากมาย
ความสะดวกสบายที่หาได้ยากในรถยนต์ Segment เดียวกัน
อีกหนึ่งประเด็นที่ทำให้ ALL NEW MG5 ค่อนข้างโดดเด่นก็คือ เรื่องความสะดวกสบายในการใช้งาน เพราะมีพื้นที่ห้องโดยสารขนาดใหญ่ ฟังก์ชันอำนวยความสะดวกครบครัน
ด้วยมิติตัวถังที่ใหญ่กว่ารถยนต์ประเภท B-segment ทั่วไป ทำให้มีพื้นที่ภายห้องโดยสารที่กว้างขวาง นั่งสบาย มีพื้นที่เหนือศีรษะที่สูงโปร่ง พร้อมการตกแต่งสไตล์สปอร์ตพรีเมียม วัสดุภายในเป็นแบบผิวสัมผัสนุ่ม (Soft touch) ในหลายตำแหน่ง หน้าจอแบบสัมผัสขนาด 10 นิ้ว รองรับการเชื่อมต่อ Apple CarPlay และโทรศัพท์มือถือระบบ Android พวงมาลัยแบบมัลติฟังก์ชัน กุญแจรีโมทอัจฉริยะ (Smart Key) พร้อมปุ่ม Push Start มาตรวัดอัจฉริยะแสดงผลแบบดิจิตอลขนาด 7 นิ้ว เบาะนั่งคนขับปรับไฟฟ้า 6 ทิศทาง หลังคาซันรูฟ ซึ่งส่วนมากจะมีในเฉพาะรถ C-Sedan รวมถึงระบบปรับอากาศแบบดิจิตอล ระบบกรองอากาศ PM 2.5
เทคโนโลยีอัจฉริยะที่ช่วยให้
การใช้งานเป็นอะไรที่สะดวกสบาย และง่ายกว่าที่เคย
อย่างที่เรากล่าวถึงในทุกครั้ง รถยนต์เอ็มจีจะมาพร้อม i-SMART ระบบปฏิบัติการอัจฉริยะ Smart Command ระบบสั่งการอัจฉริยะ Smart Connect ระบบเชื่อมต่ออัจฉริยะ และ Smart Check ระบบตรวจเช็กอัจฉริยะ
ด้วยฟังก์ชันที่หลากหลายทำให้การสั่งการรถ เช็กรถ ติดตามรถ เป็นเรื่องที่ง่ายและสะดวกยิ่งขึ้น ทั้งสั่งการด้วยเสียงภาษาไทย สั่งงานผ่านหน้าจอทันสกรีน หรือจะสั่งผ่านแอปพลิเคชันบนโทรศัพท์มือถือก็ทำได้
แต่ใน ALL NEW MG5 มีความพิเศษกว่าด้วยฟังก์ชันใหม่ล่าสุด กุญแจดิจิตอล (Digital Key) ที่แม้ไม่มีกุญแจก็ใช้งานรถได้ ด้วยการรับ–ส่งโค้ดผ่านทางแอปพลิเคชัน i-SMART พูดง่ายๆ ก็คือสามารถใช้โทรศัพท์มือถือแทนกุญแจรถได้นั่นเอง และเจ้าของรถยังสามารถส่งกุญแจดิจิตอลนี้ให้คนอื่นรวมถึงสามารถกำหนดสิทธิ์ และเวลาการใช้งานได้อีกด้วย
ALL NEW MG5 นับว่าเรียกเสียงฮือฮาให้กับตลาดได้เป็นอย่างมาก เพราะหากเราพูดกันตามตรง ราคานี้ ในรถยนต์ Segment นี้ ALL NEW MG ก็ถือว่าให้มามากกว่าในเกือบทุกมิติ
แน่นอนว่าเรื่องของเทคโนโลยี MG ก็ใส่มาให้แบบจัดเต็ม รวมถึงเรื่องความปลอดภัย สมรรถนะ ห้องโดยสารก็กว้าง รวมถึงดีไซน์สปอร์ตสุดเท่ หากใครกำลังมองหารถยนต์สักคันในราคาที่คุ้มค่า และยังคงไว้ซึ่งความโดดเด่นและแตกต่าง ALL NEW MG5 น่าจะเป็นอีกคันที่ตอบโจทย์การใช้ชีวิตได้อย่างแน่นอน
ALL NEW MG5 มี 3 รุ่นย่อย คือ รุ่น C รุ่น D และรุ่น X พร้อมสีตัวถังทั้งหมด 6 สี ได้แก่ สีเหลือง (Nuclear Yellow) สีขาว (Arctic White) สีดำ (Black Knight) สีเงิน (Silver Metallic) สีแดง (Scarlet Red) และสีเทา (Metal Ash Grey)
ซึ่งหากใครสนใจ ALL NEW MG5 พร้อมจำหน่ายและเปิดให้ทดลองขับแล้ววันนี้ ที่โชว์รูมเอ็มจีกว่า 150 แห่งทั่วประเทศ ในราคาเริ่มต้นที่ 559,000 บาท
#ALLNEWMG5 #IamReadyToBeBeyond #MGThailand #MGCarsTH #PassionDrives