‘อายิโนะโมะโต๊ะ’ กว่า 60 ปี สู่ความอร่อยที่ถูกปากคนไทย เพิ่มเติมคือความใส่ใจสิ่งแวดล้อมโลก
กว่า 60 ปีมาแล้วที่ ‘อายิโนะโมะโต๊ะ’ ร่วมสร้างความสุขอยู่คู่ครัวไทย กับผลิตภัณฑ์อาหารที่คอยเติมความสุขผ่านรสชาติอาหารที่หลากหลายให้เราอยู่เสมอ นับตั้งแต่เมื่อครั้งก่อตั้งบริษัท อายิโนะโมะโต๊ะ ในประเทศไทยเมื่อปี พ.ศ. 2503 ผลิตภัณฑ์ของ อายิโนะโมะโต๊ะ ก็กลายเป็นสีสันคู่ครัวคนไทยมาโดยตลอด
แต่ไม่เพียงแค่เรื่องของความอร่อยเท่านั้น เพราะ อายิโนะโมะโต๊ะ ยังให้ความสำคัญกับสังคมไทยด้วย ภายใต้แนวคิด ‘อายิโนะโมะโต๊ะสร้างคุณค่าร่วมกับสังคม’ สะท้อนให้เห็นความใส่ใจในทุกมิติต่อคนไทยและต่อโลกของเรา ทั้งด้านการสร้างสังคมสุขภาพดี การใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่า และการสร้างความยั่งยืนของโลก
ชวนคนไทยเจริญอาหาร
ด้วยรสชาติ ‘อูมามิ’ และจัดการทรัพยากรอย่างคุ้มค่า
ก่อนอื่นเราอาจจะต้องเล่าก่อนว่า อายิโนะโมะโต๊ะ ไม่ได้ต้องการแค่เพียงมอบความอร่อยให้พวกเรา แต่ยังช่วยส่งเสริมสุขภาพของผู้บริโภคด้วยรสชาติ ‘อูมามิ’ ที่ทำให้ผู้บริโภคเจริญอาหาร ทำให้เราได้กินอาหารที่มีประโยชน์ในรสชาติอร่อยถูกปาก ส่วนผงชูรสก็มีส่วนช่วยลดการใช้เครื่องปรุงรสที่มีโซเดียมด้วย
นอกเหนือจากนั้น อายิโนะโมะโต๊ะ ยังส่งเสริมการใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่า ทั้งการจัดการกับของเหลือให้ได้มากที่สุด เช่น ของเหลือในกระบวนการผลิต จะถูกนำมาทำเป็น ‘ผลิตภัณฑ์ปุ๋ยน้ำ อามิ-อามิ’ เพื่อใช้ในการเกษตร แถมยังมีแนวคิด ‘Too Good Too Waste’ ที่ช่วยลดปริมาณขยะอาหารได้แล้วถึง 43 เปอร์เซ็นต์ พร้อมๆ กันกับการออกแบบการผลิตที่ไม่ก่อให้เกิดของเสีย นอกจากนี้ยังคำนึงถึงความสำคัญของทรัพยากรน้ำ อายิโนะโมะโต๊ะ เลือกใช้เทคโนโลยีประสิทธิภาพสูง เพื่อช่วยในการบำบัดน้ำจากกระบวนการผลิตให้สะอาดปลอดภัยต่อแหล่งน้ำ และยังนำน้ำจากการบำบัดมาหมุนเวียนใช้ในโรงงานได้อีก
ตั้งแต่ต้นทางจนไปถึงปลายทาง
กับการวางเป้าหมาย ‘ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์’
นอกจากเรื่องความอร่อยและการใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่า อายิโนะโมะโต๊ะ ก็ยังคิดถึงความยั่งยืนของโลกที่พวกเราอาศัยอยู่ ด้วยการปรับเปลี่ยนเทคโนโลยีที่ช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งเริ่มทำกันตั้งแต่กระบวนการจัดหาวัตถุดิบเลย ด้วยการใช้ ‘กลไกการจัดซื้ออย่างยั่งยืน’ ซื้อวัตถุดิบด้วยวิธีที่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมน้อยที่สุด และยังมีการใช้พลังงานทดแทน การกำจัดของเสีย การใช้น้ำและพลังงานอย่างประหยัดและคุ้มค่า แถมยังวางเป้าหมาย ‘ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์’ เพื่อป้องกันการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศโลกของเราด้วย
ส่วนในเรื่องของบรรจุภัณฑ์เขาก็มี ‘การจัดการด้านบรรจุภัณฑ์แบบยั่งยืน’ ที่จริงจังมากๆ โดยเป็นการลดปริมาณพลาสติกทั้งในบรรจุภัณฑ์ไปจนถึงกระบวนการขนส่ง ที่ลดปริมาณพลาสติกได้ถึง 127 ล้านตันต่อปีเลย
และยังไม่พอ หลายๆ คนอาจจะยังไม่รู้ว่า อายิโนะโมะโต๊ะ เข้าไปมีส่วนช่วยเหลือเกษตรกรด้วยนะ จากแนวคิด ‘Thai Farmer Better Life Partner’ อายิโนะโมะโต๊ะ ได้เข้าไปช่วยพัฒนาคุณภาพชีวิตของเกษตรกรในหลายๆ ด้าน ตั้งแต่การให้ความรู้เรื่องดิน เรื่องสายพันธ์ุมันสำปะหลัง เรื่องเทคโนโลยีสมัยใหม่ จัดทำแปลงขยายพันธ์ุต้นมัน ช่วยเหลือเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากมันสำปะหลังที่ติดโรค และถึงขนาดจัดตั้งห้องวิเคราะห์โรคใบด่างในมันสำปะหลังไว้ช่วยเหลือเกษตรกรด้วย
แต่ถ้าใครไม่เชื่อก็ลองเข้าไปเยี่ยมชมโรงงานสีเขียวต้นแบบของ อายิโนะโมะโต๊ะ ได้เลยที่โรงงานอายิโนะโมะโต๊ะ จังหวัดกำแพงเพชร หรือเยี่ยมชมผ่าน ‘แพลตฟอร์มการเยี่ยมชมโรงงานเสมือนจริงแห่งใหม่’ แพลตฟอร์มออนไลน์สมจริงแบบ 360 องศา ก็ได้ รับรองว่าทั้งสะดวกและสนุกแน่นอน
ไม่ใช่แค่ความอร่อย
แต่มองไปถึงความยั่งยืนของผู้บริโภคและโลก
อายิโนะโมะโต๊ะ ไม่เพียงแค่คำนึงถึงความอร่อยถูกปากเท่านั้น แต่ยังมองไปถึงความยั่งยืนของสุขภาพผู้บริโภค และความยั่งยืนของโลกใบนี้ด้วย กว่า 60 ปีที่ อายิโนะโมะโต๊ะ สร้างรอยยิ้มคู่ครัวไทย และเชื่อว่า อายิโนะโมะโต๊ะ จะพร้อมยืนหยัดเติมเต็มความอร่อยแบบยั่งยืนแบบนี้ไปด้วยกันไปอีกนาน
เห็นแล้วว่าน่ารักขนาดนี้ ดีต่อใจและดีต่อโลกขนาดไหน แล้วแบบนี้จะไม่ให้รัก อายิโนะโมะโต๊ะ ได้ยังไง