ในช่วงกว่า 2 ปีที่ผ่านมา นอกจากการทำงานอยู่ที่บ้านเพื่อต้านโรคโควิด-19 แล้ว สิ่งที่เกิดขึ้นกับชาวไทยหลายคนคือเริ่มผันตัวเข้าสู่วงการ ‘กาแฟ’ ที่เปลี่ยนจากการเดินเข้าร้านคาเฟ่ก่อนเวลาไปออฟฟิศ หันมาทำกาแฟกินกันเองที่บ้าน
ด้วยเทรนด์ที่เกิดขึ้น บอนกาแฟ (Boncafe) แบรนด์กาแฟครบวงจรตั้งแต่เมล็ด เครื่องชง ไปจนถึงชา กาแฟพร้อมดื่มที่อยู่คู่กับคนไทยมานานกว่า 30 ปีได้เปิดตัวกาแฟ 3 รสชาติใหม่เฉลิมฉลองช่วงเวลาพิเศษครบรอบ 3 ทศวรรษ เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของคอกาแฟยุคใหม่ที่อาจไม่ได้ไปดื่มด่ำบรรยากาศที่ร้านเหมือนเดิม พร้อมกับพรีเซนเตอร์กาแฟคนแรกอย่าง หมอเจี๊ยบ – พญ.ลลนา ก้องธรนินทร์ ผู้ที่ทุ่มเทตั้งใจให้กับทุกบทบาทของชีวิต จากแพทย์สู่วงการนางงาม นักแสดง พิธีกร กับล่าสุดในบทบาทบาริสต้า คอกาแฟหน้าใหม่ที่ใช้ความหลงใหลเติมเต็มความสุขให้กับชีวิต
เพื่อเจาะลึกความน่าสนใจและเรื่องราวการเดินทางของแบรนด์ เราได้พูดคุยกับ คุณน้ำหวาน – คุณอุษาพรรณ อินทีวรวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายบริหาร บอนกาแฟ (ประเทศไทย) ในโอกาสครบรอบ 30 ปีบอนกาแฟที่จะพลิกโฉมโชว์รูมบอนกาแฟครั้งใหญ่ เป็น Flagship Store แห่งใหม่ใจกลางกรุงเทพ
ในโอกาสครบรอบ 30 ปีบอนกาแฟมีความพิเศษอย่างไรบ้าง
ความพิเศษอย่างแรกเลยก็คือ เร็วๆ นี้ จะมีการปรับโฉมโชว์รูมบอนกาแฟครั้งใหญ่ เป็น Flagship Store แห่งใหม่ที่เกิดจากการผสมผสานระหว่างคาเฟ่สไตล์ Specialty Bar จากกาแฟ Craze Café และศูนย์การเรียนรู้กาแฟสำหรับคอกาแฟและลูกค้าที่มีความหลงใหลกาแฟโดยเฉพาะ
ในส่วนสินค้าและผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ของบอนกาแฟอย่าง Consumable products ก็มีเพิ่มมากขึ้น หลังจากที่เราก็ได้ฟีดแบคจากลูกค้าเรื่องเครื่องทำกาแฟขนาดเล็กใช้ในบ้าน เราก็มีไลน์สินค้าเพิ่มเข้ามาทั้ง Carimali เครื่องทำกาแฟกึ่งอัตโนมัติแบรนด์ดังจากอิตาลีที่ล่าสุดเราปิดดีลทำ Exclusive Brand กันได้ หรืออย่างเครื่องทำกาแฟอัตโนมัติ Saeco Royal และเครื่องทำกาแฟแบบพกพา ดริปบดเสร็จในตัวอย่าง Cafflano ที่น่าจะเป็นที่ชื่นชอบของสายแคมปิ้ง นอกจากนี้ยังมีเครื่องทำกาแฟรุ่นใหญ่ ไม่ว่าจะเป็นแบรนด์ La Marzocco หรือ La San Marco D Series รุ่นพิเศษฉลองครบรอบ 100 ปี ที่ได้นำมาแสดงในงาน Coffee Fest 2021 ที่ผ่านมาด้วย ความพิเศษทั้งหมดนี้คือเครื่องยืนยันว่าบอนกาแฟไม่เคยหยุดพัฒนา พร้อมตอบโจทย์ทุกความต้องการที่หลากหลายของกลุ่มลูกค้ามาโดยตลอด
ผลิตภัณฑ์ใหม่ กาแฟ 3 รสชาติ 3 ทศวรรษ มีที่มาและแนวคิดอย่างไร
แนวคิดมาจากฟีดแบคของลูกค้าที่อยากให้รสชาติกาแฟมีความหลากหลายมากขึ้น บอนกาแฟจึงถือโอกาสฉลองครบ 30 ปี ในการแนะนำกาแฟ 3 ทศวรรษที่มีรสชาติซับซ้อนและมีกลิ่นหอมที่เป็นเอกลักษณ์ประทับใจ โดยคัดเมล็ดกาแฟชั้นดีจากประเทศเอธิโอเปีย ปานามา ลาว และเมล็ดกาแฟจากเชียงใหม่ของไทย มาเบลนด์ให้เข้ากันในระดับการคั่วที่เหมาะสมกับกาแฟแต่ละสายพันธุ์ ตั้งแต่คั่วอ่อนยันคั่วเข้ม เปรียบเสมือนการเติบโตของบอนกาแฟที่มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง โดยนำเอาไทม์ไลน์สำคัญๆ มาเล่าเรื่องราวตั้งแต่ปี 1991 ที่ก่อตั้งแบรนด์บอนกาแฟ ปี 2014 การร่วมพัฒนาผลิตภัณฑ์กับบริษัทเครื่องดื่มชั้นนำระดับโลกอย่าง Massimo Zanetti Beverage Group (MZBG) และล่าสุดในปี 2021 ที่ได้พัฒนาและตอบแทนสังคม อุดหนุนผลผลิตจากเกษตรกรชาวไทย ยกระดับวงการกาแฟในประเทศให้มีความหลากหลายมากยิ่งขึ้น
การเปิดตัว Presenter กาแฟคนแรกของแบรนด์ เกิดขึ้นได้อย่างไร และทำไมจึงเลือกหมอเจี๊ยบเพื่อสะท้อนตัวตนของบอนกาแฟ
ตลอดเวลากว่า 30 ที่ผ่านมาบอนกาแฟมีการเติบโตอย่างต่อเนื่องในกลุ่มลูกค้าธุุรกิจหรือ B2B (Business to Business) จนมาวันนี้ที่ตลาดกาแฟเปลี่ยนแปลงไปมาก และแน่นอนว่าสถานการณ์ COVID-19 ก็เป็นหนึ่งปัจจัยสำคัญที่ทาให้เราต้องมองหาโอกาสอื่นๆ ที่จะทำให้ก้าวต่อไปของเรามั่นคงและยั่งยืน เราจึงปรับกลยุทธ์เพื่อเข้าถึงกลุ่มลูกค้าโดยตรงแบบ B2C (Business to Customer) มากขึ้น โดยเริ่มจากการปรับโฉมผลิตภัณฑ์ใหม่ให้ดูทันสมัย โดดเด่น เข้าถึงคนรุ่นใหม่ พร้อมกับขยายช่องทาง E-Commerce ทั้งบนเว็บไซต์บอนกาแฟเอง และ E-marketplace ชั้นนำที่มีฐานลูกค้าหลายล้านราย รวมถึงการใช้พรีเซนเตอร์สร้างภาพจำให้กับแบรนด์ซึ่งจะช่วยให้บอนกาแฟเข้าถึงกลุ่มลูกค้า End-Consumer มากยิ่งขึ้น ซึ่งบุคลิกและตัวตนของหมอเจี๊ยบ เป็นคนมีพลังและแพสชั่น ตั้งใจทำทุกบทบาทในชีวิตอย่างเต็มที่ เราชื่นชอบและชื่นชมความเป็นตัวเขาที่สะท้อนออกมา สามารถส่งเสริมความเป็นแบรนด์กาแฟชั้นนำของบอนกาแฟ และเข้าถึงคอกาแฟรุ่นใหม่ได้เป็นอย่างดี
ตลอด 30 ปีของแบรนด์อะไรคือหัวใจที่ส่งผลต่อการพัฒนาแบรนด์จากอดีตสู่ปัจจุบัน และมีการเปลี่ยนแปลงอย่างไรบ้าง
สิ่งสำคัญที่ทางบอนกาแฟยึดถือมาตลอดคือ สินค้าต้องมีคุณภาพ และการบริการต้องเชื่อถือได้ ที่ผ่านมาบอนกาแฟได้รับความไว้วางใจจากลูกค้าทั้งกลุ่มธุรกิจโรงแรม ร้านอาหาร และสำนักงานในเรื่องของการบริการหลังการขาย เพราะเราเชื่อว่าความสำเร็จไม่ได้อยู่ที่การปิดการขายเท่านั้น ตลอดระยะเวลา 30 ปีที่ผ่านมาเมื่อใดก็ตามที่ลูกค้าพบปัญหา เราสามารถช่วยเหลือลูกค้าได้ทันท่วงทีเสมอ นั่นคือสิ่งสำคัญที่บอนกาแฟยึดถือและปฏิบัติอย่างเคร่งครัด
ในช่วงโควิด-19 ที่ผ่านมา สถานการณ์ส่งผลกระทบต่อธุรกิจกาแฟอย่างไรบ้าง และบอนกาแฟปรับตัวอย่างไร
ต้องยอมรับว่าผู้ประกอบการในกลุ่ม Foodservice ไม่ว่าจะโรงแรม ร้านอาหาร หรือคาเฟ่ต่างได้รับผลกระทบจากการที่จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่แทบเป็นศูนย์ แต่ท้ายที่สุด เราเชื่อว่าอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่ม โดยเฉพาะอย่างยิ่งธุรกิจกาแฟจะเป็นหนึ่งในธุรกิจที่ฟื้นตัวกลับมาได้อย่างแข็งแรง เพราะกาแฟเป็นหนึ่งในสินค้าบริโภคที่ขาดไม่ได้ในชีวิตประจำวันของผู้คนจำนวนมาก จากรายงานของ Euromonitor มีการคาดการณ์ว่าในช่วงปี 2020-2025 มูลค่าของธุรกิจกาแฟในประเทศไทยจะมีอัตราการเติบโตอยู่ที่ 5% และมูลค่าร้านอาหารประเภทคาเฟ่และบาร์จะมีอัตราการเติบโตอยู่ที่ 13% จากข้อมูลนี้เองทำให้เราโฟกัสในกลุ่มสินค้าที่เป็น Consumable Products มากขึ้น และที่สำคัญในปีนี้บอนกาแฟได้มีโอกาสทำงานร่วมกับบริษัท TACC ผู้เชี่ยวชาญสายการผลิตเครื่องดื่มและชาในการทำสูตรเครื่องดื่มใหม่ๆ ร่วมกันอีกด้วย
จากเทรนด์ Home Barista ได้รับความนิยมขึ้นในช่วงปีที่ผ่านมา บอนกาแฟมีผลิตภัณฑ์หรือบริการใดที่ช่วยเข้าถึงลูกค้ากลุ่มนี้ได้มากขึ้น
จากตัวเลขของยอดขายในช่องทาง Marketplace อย่าง Lazada, Shopee หรือแม้แต่บนเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชันของบอนกาแฟต้องยอมรับว่าเทรนด์ Home Barista มาแรงอย่างมาก โดยกลุ่มสินค้าที่ได้รับความนิยมจะเป็นกลุ่มกาแฟซิงเกิลออริจินแบรนด์ Craze Cafe ที่ล่าสุดเราทำเป็นกาแฟ Drip Bag เพื่อความสะดวกของผู้บริโภค การทำชาผงสำเร็จรูปแบบซอง หรือแม้กาแฟพร้อมดื่มจากแบรนด์ดังอิตาลีอย่าง Segafredo ที่เริ่มเปิดตัววางขายในเซเว่นอิเลฟเว่นก็ได้รับผลตอบรับจากผู้บริโภคค่อนข้างดี
มุมของบอนกาแฟกับคำว่า From Passion to Profession จากความหลงใหลกลายมาเป็นอาชีพ
ถ้าถามคนทำกาแฟว่าชอบทำกาแฟเพราะอะไร เชื่อว่าก็จะมีคำตอบที่หลากหลายมาก แต่สิ่งหนึ่งที่หลายคนมักพูดกันคือความสนุกที่ได้ลอง กาแฟมันไม่มีสูตรตายตัว ความอร่อยของเราอาจจะไม่อร่อยของคนอื่น ดังนั้นนี่แหละคือเสน่ห์ ประกอบกับความพยายามอย่างต่อเนื่องจนกลายเป็นแพสชั่น (Passion) ซึ่งบอนกาแฟเองก็มีจุดเริ่มต้นจากจุดนี้และพัฒนามาเป็นธุรกิจตลอด 30 ปี เราไม่เคยหยุดพัฒนาและปรับตัวในหลายๆ มิติ ไม่เพียงในแง่การปรับพอร์ตสัดส่วนธุรกิจกลุ่มลูกค้าหรือการทาการตลาดแบบ Omni Channel ในภาพขององค์กรเราก็นำเทคโนโลยีต่างๆ เข้ามาปรับใช้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน อย่างล่าสุดเราก็เพิ่มการทำ CRM Boncafe Club ใน Line OA ให้ลูกค้าที่ซื้อแล้วกลับมาซื้อซ้ำ ยิ่งซื้อยิ่งคุ้ม เป็นการคืนกำไรให้แก่ลูกค้าคนสำคัญที่สนับสนุนบอนกาแฟตลอด 30 ปี
การเดินทางของบอนกาแฟตลอด 30 ปีไม่ใช่เรื่องง่าย จากความหลงใหลในรสชาติได้กลายเป็นอาชีพในธุรกิจกาแฟแบบครบวงจร เพื่อให้เห็นภาพตัวตนของแบรนด์บอนกาแฟได้ชัดเจนยิ่งขึ้น เรายังได้พูดคุยกับหมอเจี๊ยบ พรีเซนเตอร์กาแฟคนแรกของบอนกาแฟ ที่จะมาบอกเล่าถึงที่มาที่ไปของความหลงใหลในกาแฟจนกลายเป็นงานอดิเรกสุดโปรดล่าสุด
ต้องเล่าย้อนไปถึงสมัยตอนเป็นนักเรียน เจี๊ยบต้องใช้ชีวิตไปกับการอ่านหนังสือหนักมากโดยเฉพาะในช่วงสอบ ตอนนั้นก็ดื่มกาแฟซองธรรมดาทั่วไปเพื่อทำให้ตาตื่น มีกำลังหามรุ่งหามค่ำกับการอ่านหนังสือ ตลอดจนช่วงที่เริ่มทำงานในช่วงแรก แม้ว่าสายงานแพทย์จะเป็นอาชีพที่คุ้นเคยกับกาแฟมากๆ เรียกได้ว่าดื่มกาแฟกันตลอด 24 ชั่วโมง แต่ตอนนั้นก็ยังไม่เข้าใจอารมณ์ของคอกาแฟที่ดื่มกาแฟเพื่อดื่มด่ำไปกับรสชาติ ความสุข ความหอมของเมล็ดสายพันธุ์ต่างๆ จนกระทั่งโควิดรอบแรกที่ห้างสรรพสินค้าเริ่มปิด เริ่มมีมาตรการห้ามนั่งรับประทานอาหารที่ร้าน การรักษาระยะห่างทำให้วิถีชีวิตเปลี่ยน เจี๊ยบได้มีเวลาอยู่บ้านมากขึ้นเริ่มสังเกตว่าครอบครัวของแฟนชื่นชอบกาแฟโคลด์บรูว์ เราจึงเริ่มสนใจและตั้งใจศึกษาตั้งแต่ตอนนั้นเพื่อทำให้คนในบ้านได้ดื่มกาแฟที่มีรสชาติเหมือนกับที่คาเฟ่ ถือเป็นกิจกรรมสนุกๆ ในครอบครัว
Taste of Passion ทำไมต้องเป็นกาแฟ
จากที่ทดลองทำโคลด์บรูว์เองที่บ้านแล้วทุกคนพูดเป็นเสียงเดียวกันว่ากาแฟที่เราทำมันอร่อย จึงอยากศึกษาให้จริงจังมากขึ้น ตามที่ทุกคนทราบว่าเจี๊ยบเป็นคนทำอะไรแล้วต้องทำให้ถึงที่สุด จึงตัดสินใจลงเรียนคอร์สบาริสต้า ได้ทดลองชงกาแฟ ดมกลิ่นกาแฟ ได้ชิมรสชาติเมล็ดกาแฟจากพื้นที่ต่างๆ ก็เพิ่งรู้ว่ากาแฟมันไม่ได้มีแค่รสชาติขมนะ มันมีความเปรี้ยวมีกลิ่นหอมที่มีเสน่ห์เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว ที่บ้านเห็นเรามีความสุขก็ยิ่งสนับสนุน กลายเป็นสกิลใหม่ที่คนชอบเรียนรู้อย่างเรารู้สึกสนุก ยิ่งได้ทำยิ่งหลงใหลและไปไกลกว่าการที่เราชงกาแฟดื่มธรรมดา ต่างจากภาพเดิมๆ ที่เราคุ้นชินมาตลอด
รู้จักบอนกาแฟจากที่ไหน
เจี๊ยบค้นหาเองจากในอินเตอร์เน็ตเลย เริ่มค้นหาจากสายพันธุ์เอธิโอเปียเพราะแฟนชอบกาแฟที่ติดเปรี้ยวมีรสชาติเฉพาะ จนได้มาเจอเว็บไซต์ของบอนกาแฟที่ดูมีความน่าเชื่อถือและเคยได้ยินชื่อเสียงมานาน เริ่มแรกก็สั่งเมล็ดมาชงเองแต่หลังจากลงเรียนคอร์สบาริสต้าก็เริ่มสนุกกับการใช้เครื่อง การชงกาแฟมีหลายรูปแบบและต้องฝึกฝนอย่างสม่ำเสมอจึงติดต่อทางบอนกาแฟไปเพื่อซื้ออุปกรณ์ต่างๆ และมาทราบภายหลังว่าช่วงโควิดที่ผ่านมาบอนกาแฟได้นำเครื่องดื่มมาแจกให้กับบุคลากรทางการแพทย์ในโรงพยาบาลที่เจี๊ยบทำงานอยู่เรายิ่งรู้สึกประทับใจ พอได้เป็นลูกค้าหลังจากนั้นก็ได้พบปะพูดคุยกับทีมบอนกาแฟมาเรื่อยๆ จนได้มาเป็นพรีเซนเตอร์กาแฟคนแรกของบอนกาแฟ
ความรู้สึกจากลูกค้าสู่ Presenter บอนกาแฟคนแรก
ดีใจมาก บอนกาแฟเป็นแบรนด์ที่น่าเชื่อถือ มีประสบการณ์ ตอนเด็กๆ เราเคยเห็นและรู้จักบอนกาแฟแต่ก็ไม่เคยนึกว่าจะได้มาเป็นลูกค้าด้วยความบังเอิญและได้เป็นพรีเซนเตอร์คนแรก ภูมิใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของภาพลักษณ์บอนกาแฟเพราะบอนกาแฟคือเซียนตัวจริงในวงการกาแฟ ทุกผลิตภัณฑ์ผ่านกระบวนการคัดสรรมาอย่างดี ตอบโจทย์ทั้ง Home Barista ทางบ้านหรือร้านค้า ที่สำคัญเมล็ดกาแฟมีคุณภาพ รสชาติคงที่ มีของสม่ำเสมอไม่ขาด ซึ่งนี่ถือเป็นสิ่งสำคัญที่สุดสำหรับร้านค้า รสชาติกาแฟแต่ละแก้วต้องมีคุณภาพที่เท่ากันในทุกครั้งที่ชง
อะไรคือตัวตนของคุณหมอที่สะท้อนออกมาผ่านบอนกาแฟ
ความหลงใหล คือสิ่งที่เจี๊ยบและบอนกาแฟมีเหมือนกัน เรามีแพสชั่น (Passion) ในสิ่งที่เราทำ รู้ลึก รู้จริง ทำทุกอย่างจนสุดทางไม่ใช่แค่มาแตะเล่นๆ เพื่อความสนุก ทางแบรนด์บอนกาแฟก็มีความชัดเจนในเรื่องนี้ 30 ปีที่ผ่านมาทางบอนกาแฟได้พัฒนาและปรับเปลี่ยนให้ตรงตามความต้องการของลูกค้ามาโดยตลอด ผลิตภัณฑ์และบริการทุกอย่างของแบรนด์ตอบโจทย์ตั้งแต่ฝั่งโฮมยูสไปจนถึงระดับธุรกิจ จาก 0-100 ไม่ว่าคุณจะเริ่มจากระดับไหน บอนกาแฟก็มีของพร้อมให้คุณพัฒนาตัวเองไปถึงร้อยได้
มุมมองต่อกาแฟกับธุรกิจกาแฟ/คาเฟ่ที่กำลังเติบโตขึ้นเรื่อยๆ ในประเทศไทย
กาแฟเป็นอีกหนึ่งธุรกิจที่สามารถนำรายได้เข้าสู่ประเทศ ด้วยเมล็ดกาแฟที่รสชาติและกลิ่นหอมที่เป็นเอกลักษณ์ เครื่องชงกาแฟที่ทันสมัยเป็นอีกจุดดึงดูดที่ทำให้คนสนใจ เป็นกิจการที่น่าสนับสนุน เจี๊ยบเชื่อว่าทุกคนสามารถเริ่มต้นได้ ทางบอนกาแฟเองก็พร้อมซัพพอร์ตความต้องการของทุกคนได้แบบครบวงจร
เมนูประจำตัวของคุณหมอที่อยากแนะนำ
จริงๆ มันขึ้นอยู่กับช่วงเวลาที่ดื่มกาแฟ เพราะกาแฟทำได้หลากหลายมาก แต่กาแฟส้มแบล็คออเรนจ์ (Black Orange) เป็นเมนูที่เจี๊ยบทำบ่อยที่สุดเพราะเป็นเมนูแก้วโปรดของแฟนและเป็นเมนูทำง่าย สกัดช็อตเอสเปรสโซ่ผสมกับน้ำส้มยูซุ เพิ่มความสดชื่นและความสนุกสนานให้กับกาแฟยามบ่ายได้เป็นอย่างดี
ฝากอะไรถึง Coffee People คอกาแฟที่ติดตามคุณหมอและบอนกาแฟ
ดีใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของบอนกาแฟ เจี๊ยบเองเพิ่งเริ่มต้นเข้าวงการคอกาแฟได้ไม่นาน แต่เจี๊ยบก็เชื่อว่าการค้นพบครั้งนี้จะสร้างความสุขและกลายเป็นความสุขระยะยาวของเจี๊ยบ เจี๊ยบเป็นคนที่ทำอะไรหลากหลายและเต็มที่กับทุกเรื่อง ซึ่งการได้มาเจอกับบอนกาแฟก็เหมือนเราได้เติมเต็มแพสชั่นของกันและกัน สำหรับใครที่มีความหลงใหลทางด้านนี้ก็มาพิสูจน์แพสชั่นมาร่วมสนุกกันที่บอนกาแฟได้