4 Min

โครงการกรุงไทยรักชุมชนทั่วไทย ให้ชุมชนในไทยเติบโตก้าวไกลอย่างยั่งยืน

4 Min
891 Views
14 Sep 2020

สำหรับโครงการ ‘กรุงไทยรักชุมชนทั่วไทย’ ต้องขอเล่าให้ฟังก่อนว่า ทางธนาคารกรุงไทยเอง มีวิสัยทัศน์ในเรื่องของ Growing Together for Sustainability หรือการเติบโตไปพร้อมกับทุกภาคส่วนของสังคมอย่างยั่งยืน

โดยเป้าหมายสำคัญของโครงการกรุงไทยรักชุมชน ก็เกิดจากที่ธนาคารมองเห็นความสำคัญในการพัฒนาชุมชนให้เข้มแข็ง ยึดหลักการพึ่งพาตนเอง ลดการพึ่งพิงภายนอก ด้วยการคำนึงถึงศักยภาพ ทรัพยากร ภูมิปัญญา วิถีชีวิต วัฒนธรรม และสิ่งแวดล้อมในท้องถิ่นเป็นหลัก และสอดคล้องกับแผนพัฒนาเศรษฐกิจของชาติ ในการสร้างชุมชนเข้มแข็ง  และน้อมนำปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงมาประยุกต์ใช้ในการพัฒนา ให้เกิดความสมดุลมีความเข้มแข็งจากภายใน  โดยคนในชุมชนได้มาร่วมกันคิด ร่วมกำหนดแนวทาง และกิจกรรมการพัฒนาของชุมชน

แต่ถ้าจะคุยกันให้ลึก รู้จักกันให้มากขึ้น ก็ต้องมาคุยกับเจ้าของโครงการฯ วันนี้ BrandThink ได้มีโอกาสร่วมพูดคุยกับธนาคารกรุงไทย เรามาดูกันดีกว่าครับว่าวิสัยทัศน์ของธนาคารเป็นอย่างไร ทำไมต้องเป็นชุมชนโคกไคร และมีรายละเอียดอย่างไรกันแน่

ทางธนาคารกรุงไทยเล่าให้เราฟังว่า จากวิสัยทัศน์ของธนาคาร Growing Together for Sustainability ที่ธนาคารต้องการเติบโตไปพร้อมกับทุกภาคส่วนของสังคมอย่างยั่งยืน และธนาคารได้เชื่อมโยงเรื่อง ESG (Environmental, Social and Governance) เข้ากับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (Sustainable Development Goals-SDGs) โดยเชื่อมกรอบการดำเนินธุรกิจเพื่อจะช่วยลดปัญหาความยากจน พัฒนาเศรษฐกิจ คุณภาพชีวิต ทำให้ชุมชน สังคม มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น โดยหนึ่งในภารกิจของธนาคาร คือ การสร้างสังคมยั่งยืน หรือ Sustainability Society ตามแนวทาง

การดำเนินงานด้าน CSR ภายใต้ 3 ยุทธศาสตร์หลัก อันประกอบด้วย

  1. Strengthen Foundation ที่ต้องการสร้างพื้นฐานให้แข็งแกร่งด้วยการสร้างอาชีพให้กับชุมชุน
  2. Go Local Based Solutions ยกระดับสินค้าและบริการของชุมชนครบวงจร ผ่านการดำเนินงานด้านการตลาดที่มีประสิทธิภาพ
  3. Grow Local ที่ต้องการสร้างความยั่งยืนให้แก่ชุมชน ด้วยการเป็นแหล่งเงินทุนให้กับชุมชน

นอกเหนือจากนั้นครับ ทางธนาคารกรุงไทยยังอธิบายต่อว่า ธนาคารจึงได้ริเริ่มดำเนินโครงการกรุงไทยรักชุมชนทั่วไทย ในปี 2562 ตามแผนยุทธศาสตร์ดังกล่าว ซึ่งธนาคารมองเห็นความสำคัญในการพัฒนาชุมชนให้เข้มแข็ง โดยยึดหลักการพึ่งพาตนเอง ลดการพึ่งพิงภายนอก ด้วยการคำนึงถึงศักยภาพ ทรัพยากร ภูมิปัญญา วิถีชีวิต วัฒนธรรม และสิ่งแวดล้อมในท้องถิ่นเป็นหลัก และสอดคล้องกับแผนพัฒนาเศรษฐกิจของชาติ ในการสร้างชุมชนเข้มแข็ง น้อมนำปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงมาประยุกต์ใช้ในการพัฒนา ให้เกิดความสมดุลมีความเข้มแข็งจากภายใน  โดยคนในชุมชนได้มาร่วมกันคิด ร่วมกำหนดแนวทาง และกิจกรรมการพัฒนาของชุมชน

โดยที่ต้องเป็นหน่วยชุมชนก็เพราะธนาคารมองเห็นว่า ชุมชน เป็นหน่วยขนาดที่เป็นเหมือนต้นไม้แต่ละต้นในป่า ซึ่งป่าเหมือนดังประเทศ ถ้าต้นไม้แข็งแรงแล้ว ป่าก็จะแข็งแรงเช่นกัน

ธนาคารสามารถนำจุดแข็งของธนาคาร ทั้งในด้านความรู้ทางด้านการเงิน ผลิตภัณฑ์ และบริการทางการเงินไปตอบสนองความต้องการของชุมชน ผ่านการดำเนินงานของสาขาในแต่ละพื้นที่ และการทำงานร่วมกับ Partner ที่มีความเชี่ยวชาญในด้านต่างๆ เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตของชุมชน ในเรื่องการบริหารจัดการ การท่องเที่ยวโดยชุมชน สินค้าท้องถิ่น ศิลปวัฒนธรรม การตลาด และความรู้ทางการเงิน

เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (Sustainable Development Goals-SDGs) โดยเชื่อมกรอบการดำเนินธุรกิจเพื่อจะช่วยลดปัญหาความยากจน พัฒนาเศรษฐกิจ คุณภาพชีวิต ทำให้ชุมชน สังคมมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น

โดยสำหรับ ‘ชุมชนบ้านโคกไคร’ ทางธนาคารกรุงไทย ก็ให้เหตุผลว่า ที่นี้เป็นหนึ่งในชุมชนเป้าหมาย ที่มีส่วนร่วมของสาขาในพื้นที่ ในการนำเสนอชุมชนบริเวณรอบๆ พื้นที่สาขา โดยจุดเด่นของชุมชนนี้ก็คือ เป็นชุมชนที่เปี่ยมไปด้วยเสน่ห์ของวิถีชีวิตชาวประมงพื้นบ้าน มีแหล่งเลี้ยงหอยนางรม มีสิ่งแวดล้อมที่สมบูรณ์ มีผลิตภัณฑ์แปรรูปจากทะเล รวมถึงกิจการท่องเที่ยวในชุมชนอีกหลายแห่ง ทำให้ ‘ชุมชนบ้านโคกไคร’ มีศักยภาพและสามารถตอบโจทย์ได้อย่างดีเยี่ยม

ทางธนาคารกรุงไทยได้เข้าไปพัฒนาความรู้ทางการเงิน ด้านการท่องเที่ยว ด้านสินค้า ด้านการตลาด ด้านบริหารจัดการ ผ่านการอบรมให้ความรู้ ส่งเสริมการปรับปรุงสถานที่ เพิ่มมูลค่าสินค้าชุมชน ทำสมุดบัญชี การประชาสัมพันธ์ชุมชน และอีกหลากหลายประเด็น

หลังจากที่กรุงไทยเข้าไปดูแลชุมชน เราจะเห็นความเปลี่ยนแปลงค่อนข้างมาก “บ้านโคกไคร” เป็นเหมือนตัวอย่างของความสำเร็จของการจัดสรรทรัพยากรท้องถิ่นที่นำไปสู่ การท่องเที่ยวโดยชุมชน และต่อยอดเป็นผลิตภัณฑ์ สร้างรายได้ให้กับคนในชุมชน โดยมีธนาคารกรุงไทย เข้ามาเป็นส่วนร่วมของการพัฒนา ในด้านต่างๆ  ต่อยอดการพัฒนาอย่างสมบูรณ์แบบ 

บ้านโคกไคร มีนักท่องเที่ยวมากขึ้น และมีรายได้เพิ่มขึ้นถึง 200,000 บาท ได้รับรางวัลอีกมากมาย อาทิ รางวัล DADTA AWARDS สาขาการท่องเที่ยวโดยชุมชนประจำปี 2562 ระดับการพัฒนาการยอดเยี่ยมอันดับ 2 และ DADTA AWARDS สาขาการท่องเที่ยวโดยชุมชนประจำปี 2562 ระดับการพัฒนาดีเด่น

หลังจากโครงการดังกล่าว เราจะพบว่าคนในชุมชนตระหนักถึงทรัพยากรต่างๆ ภายในชุมชนมาก ผ่านการบริหารจัดการที่ดี ทำให้เกิดความร่วมมือในชุมชน ชุมชนเป็นที่รู้จัก สินค้าของชุมชนมีการพัฒนาให้เกิดมูลค่า สามารถทำการค้าขายออนไลน์ (E-Commerce) มีการนำมาตรฐานการท่องเที่ยวมาเป็นแนวทางในการพัฒนา รวมถึงมีการนำเทคโนโลยีทางการเงินมาใช้ เพื่อตอบสนองสังคมไร้เงินสด (Cashless Society) อีกด้วย

ทางธนาคารกรุงไทยได้คัดเลือกชุมชนเป้าหมาย จากการมีส่วนร่วมของสาขาในพื้นที่ในการนำเสนอชุมชนบริเวณรอบๆ พื้นที่สาขา ทั้งหมด 7 ชุมชน ทั่วประเทศไทย ได้แก่ ชุมชนบ้านสวนทุเรียน จังหวัดสงขลา, ชุมชนตำบลบ้านแหลม จังหวัดสุพรรณบุรี, ชุมชนบ้านสนวนนอก จังหวัดบุรีรัมย์, ชุมชนบ้านแม่กำปอง จังหวัดเชียงใหม่, ชุมชนบ้านโคกไคร จังหวัดพังงา, ชุมชนบ้านเดื่อ จังหวัดหนองคาย และชุมชนท่ามะโอ จังหวัดลำปาง โดยธนาคารได้ลงพื้นที่เพื่อร่วมหารือกับชุมชน และกำหนดเป้าหมายในการพัฒนาร่วมกัน

ชุมชนโคกไครเป็นชุมชน OTOP นวัตวิถีที่เต็มเปี่ยมไปด้วยเสน่ห์จากวิถีชีวิตชาวประมงพื้นบ้าน แหล่งเลี้ยง “หอยนางรม” สิ่งแวดล้อมที่สมบูรณ์ อาหารแปรรูปจากทะเล และกิจการท่องเที่ยวชุมชน เช่น สปาโคลนแห่งเดียวในประเทศไทย พายเรือคายัค กองทัพปูมดแดง ถ้ำหัวกะโหลก

ภูมิปัญญาชาวบ้าน และวิถีชุมชนสามารถต่อยอดทางธุรกิจได้อีกมาก ซึ่งสามารถนำมาพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์ สร้างความยั่งยืนให้กับชุมชน ลดขยะ สร้างงานในพื้นที่

แผนการในอนาคตของโครงการกรุงไทยรักชุมชน ทางธนาคารจะพัฒนาชุมชนทั้ง 7 ให้ดียิ่งขึ้น นำผลิตภัณฑ์และความรู้ด้านการเงินต่างๆเข้ามาร่วม และขยายไปยังชุมชนอื่นๆ ในประเทศไทย เพื่อให้ครอบคลุมและเป็นต้นแบบให้กับชุมชนอื่นๆ