พวกเราเชื่อมาเสมอตั้งแต่ก่อนเริ่มต้นทำแบรนด์ “เคียง” ว่า ‘เขียงไม้ คือสิ่งที่สำคัญสำหรับทุกครอบครัวในการประกอบอาหาร เพราะอาหารที่จะปลอดภัยสำหรับคนที่เรารัก พวกเราเชื่อว่าต้องเริ่มจากสิ่งพื้นฐานที่สุดก่อน นั้นคือเขียง’ สิ่งนี้คือเหตุผลที่ทำให้พวกเราสร้างแบรนด์เคียงขึ้นมา
“แบรนด์ที่อยากเป็นมากกว่าเขียงไม้…แบรนด์ที่อยากส่งต่อความห่วงใยและความปลอดภัยผ่านเขียงไม้”
ความสงสัยสร้างคำถาม:
จุดเริ่มต้นของแบรนด์เคียงเกิดขึ้นจากประโยคนี้. . .
เขียงไม้มันต้องแตก, ขึ้นรา หรือเป็นมอด เป็นปกติของมันอยู่แล้ว
นี่เป็นประโยคคลาสสิคที่มักจะได้ยินจากปากของใครหลายคน ที่คงเคยชินกับปัญหาเดิม ๆ ของเขียงไม้ จนคิดว่ามันเป็นเรื่องปกติที่เกิดขึ้นซึ่งไม่สามารถแก้ไขได้แล้ว และยังมักคิดว่าปัญหาพวกนี้บ้านไหนที่ใช้เขียงไม้ก็ต้องพบเจอกันอยู่แล้ว ไม่ใช่เรื่องที่จะต้องกังวล. . .
ไม่จริงเลย มันคือเรื่องที่ “ต้องกังวลและไม่ครวมองข้ามต่างหาก” เพราะสิ่งเหล่านี้อาจจะทำให้เกิดผลกระทบหลายอย่างต่อสุขภาพ เช่น เชื้อราบนเขียงสามารถสร้างสารพิษอย่าง อะฟลาทอกซิน และเกิดการสะสมในร่างกายนานๆ อาจก่อให้เกิดโรคมะเร็งได้ (จากคำกล่าวของ ดร.วรงค์ศิริ เข็มสวัสดิ์ สถาบันโภชนาการ มหาวิทยาลัยมหิดล) หรือมีงานวิจัยบางส่วนพบว่า เนื้อสัตว์ที่ติดในรอยแตกของเขียง อาจสะสมเชื้อแบคทีเรียตระกูลลิสเทอเรีย (Listeria) ซึ่งทำให้เกิดปัญหาสุขภาพอย่างโรคติดเชื้อในระบบทางเดินอาหารได้ เป็นต้น
คำถามต่อไปที่เกิดขึ้นกับพวกเราคือ “เขียงไม้ไม่ต้องแตก, ขึ้นรา หรือเป็นได้ไหม ?” ทุกคนจะได้ไม่ต้องมาเสี่ยงดวงกับผลกระทบด้านสุขภาพจากการใช้ ความสงสัยทำให้พวกเราเริ่มตามหาคำตอบ
จนพบว่า 2 ปัจจัยสำคัญที่ทำให้เกิดปัญหาเหล่านี้คือ
-
ชนิดของไม้: อย่างน้อยควรเป็นไม้เนื้อแข็งปานกลาง โดยเป็นไม้ที่มีความแข็งแรง 600 ถึง 1,000 กก./ลบ.ม. ซึ่งเหมาะสมต่อการนำมาทำเขียง
-
ความชื้นในเนื้อไม้: ควรมีค่าความชื้นของไม้ระหว่าง 6 ถึง 15% ซึ่งเป็นค่าความชื้นที่เหมาะสมที่จะไม่ทำให้เกิดเชื้อราและการหดขยายของเนื้อไม้จนเกิดการแตก ซึ่งต้องมาจากการควบคุมคุณภาพการอบที่ได้มาตรฐาน (ปัญหาความชื้นในเนื้อไม้จนเกิดเชื้อรา มักพบเจอได้บ่อยกับเขียงไม้มะขาม)
ความบังเอิญสร้าางคำตอบ:
ด้วยความบังเอิญจากที่ตั้งของโรงงาน ซึ่งตั้งอยู่ที่จังหวัดลำพูน ทำให้พวกเราได้เจอกับ ‘ไม้ลำไย’ ไม้ที่จะกลายมาเป็นวัตถุดิบหลักของแบรนด์เคียง เนื่องจากจังหวัดลำพูนเป็นแหล่งปลูกลำไยอันดับต้น ๆ ของประเทศ และในแต่ละปีต้นลำไยจะถูกตกแต่งกิ่งเพื่อควบคุมความสูง ซึ่งจะทำให้เกิดท่อนไม้ลำไยจำนวนมาก ซึ่งท่อนไม้เหล่านี้กลับกลายเป็นสิ่งที่ชาวบ้านไม่ได้เหลียวแล และถูกใช้ประโยชน์แค่เพียงทำหน้าที่เป็นฟืนในกองไฟเท่านั้น. . .
แต่เมื่อนำมาทดสอบ กลับพบว่าไม้ลำไยเป็นไม้ที่มีคุณสมบัติเหมาะสมอย่างมากต่อการนำมาทำเขียงไม้ เพราะมีความแข็งแรงเหมาะสมกับการทำอาหารเนื่องจากมีความหนาแน่นสูงถึง 860 กก./ลบ.ม.(ที่ระดับความชื้น 5%) และเนื้อไม้ยังให้ ‘สีเหลืองอมชมพู’ ที่สวยงาม
และเมื่อทดลองควบคุมคุณภาพการอบแห้งด้วยเตาอบ (kiln dry) ที่ความชื้น 8% ซึ่งเป็นความชื้นที่เหมาะสมที่สุดในการป้องกันไม้ ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นสร้างความดีใจให้กับพวกเราอย่างมาก เพราะเมื่อได้นำไปทดลองใช้ประกอบอาหารจริง ๆ เขียงไม้ลำไยของเคียงไม่ได้สร้างปัญหาการแตก, การขึ้นราและมอดอีกเลย
แต่พวกเรายังไม่หยุดแค่นั้น:
พวกเราไม่ได้อยากให้ ‘เคียง’ เป็นแค่แบรนด์เขียงไม้ แต่เราอยากให้ ‘เคียง’ ทำหน้าที่เป็นสะพานที่ช่วยส่งต่อความปลอดภัย และความห่วงใยให้กับลูกค้าของเรา และผู้ใช้ของเรายังสามารถใช้เขียงไม้ของเคียงเพื่อส่งต่อความปลอดภัยและห่วงใยผ่านการทำอาหารไปให้คนที่รักได้อีกด้วย
ดังนั้นแค่การแก้ปัญหาการแตก, การขึ้นราและมอด ยังไม่ได้สามารถถ่ายทอดความรู้สึกของพวกเราที่อยากส่งต่อได้ครบถ้วน พวกเราจึงเลือกถ่ายทอดออกมาด้วย Japanese design concept ด้วยการใช้เทคนิคการเข้าไม้แบบญี่ปุ่น (継手, tsugite) โดยการเข้าไม้แบบบังใบผสมเดือยไม้ (掛け合わせ込み栓継ぎ, Kakeawase-komisen-tsugi) และเลือกใช้ Hadicraft production ทั้งหมด ซึ่งถูกทำอย่างพิถีพิถัน ซึ่งทำให้ใช้เวลาประมาณ 12-14 วัน สินค้าจึงจะถึงมือของลูกค้า
‘WE CRAFT (手造り), WE CARE (御念).’ คือประโยคที่อธิบายตัวตนของเคียงได้อย่างดีที่สุด เรายอมใช้เวลาในการผลิตนานกว่าปกติหลายเท่าตัว โดยการเลือกใช้การผลิตแบบ Handicraft production เพราะเราเชื่อว่า “ความห่วงใย” ที่เราต้องการส่งต่อให้กับผู้ใช้งาน คงจะไม่มีวิธีใดที่จะสามารถส่งต่อรายละเอียดความห่วงใยบนชิ้นงานด้วยความพิถีพิถันได้ดีเท่ากับการใช้มือผลิตอีกแล้ว
ณ ปัจจุบัน สินค้า ‘เคียง’ มีด้วยกันทั้งหมด 3 รุ่น
1. เฮอิ (Heii, 平易) ได้รับแรงบันดาลใจในการออกแบบจาก ‘วัฒนธรรมและแนวคิดความเรียบง่ายแบบญี่ปุ่น’ ซึ่งถูกถ่ายทอดออกมาด้วยแนวคิด “Simple but delicate” ด้วยการออกแบบหน้าเขียงที่เรียบง่าย แต่แฝงความพิถีพิถันใต้เขียงด้วยการใช้เทคนิคการเข้าไม้แบบญี่ปุ่น และยังเลือกสรรลักษณะหน้าไม้ที่เหมาะสมมากที่สุดต่อการเป็นเขียงไม้ที่เรียบง่าย ดั่งคำว่า เฮอิ
2. อิชิ (Ichii, 一意) ได้รับแรงบันดาลใจในการออกแบบจาก ‘ความหลงไหลในเสน่ห์ของลายไม้ธรรมชาติที่มีความเป็นเอกลักษณ์อย่างไม่มีที่สิ้นสุด’ ซึ่งหมายความว่าพลังของธรรมชาติได้ช่วยสร้างสรรค์ให้แต่ละชิ้นจะไม่มีทางที่จะเกิดลวดลายที่ซ้ำกัน จนเกิดเป็นแนวคิด “Natural endless unique”
3. โฮริ (Hori, 堀) ได้รับแรงบันดาลใจในการออกแบบจาก ‘การสังเกตุเห็นถึงปัญหาของการไหลเลอะเทอะของน้ำที่มาจากวัตถุดิบในการประกอบอาหารเมื่อใช้เขียง’ จนเกิดเป็นแนวคิดการออกแบบที่มีชื่อว่า “Flowless line” โดยมีความหมายมาจากการเล่นคำพ้องเสียงของ ‘Flawless (ไร้ที่ติ)’ กับคำว่า ‘Flow (การไหล)’ เมื่อรวมกันจะมีความหมายว่า ‘เส้นทางการไหลที่ไม่มีที่ติ’ เหมือนกับร่องทางน้ำที่สวยงามรอบสถาปัตยกรรมหลายแห่งของญี่ปุ่น หรือที่เรียกว่า โฮริ และยังคงแฝงความพิถีพิถันผ่านเลือกการเจาะร่องน้ำแบบครึ่งวงกลมเพื่อให้ความรู้สึกพริ้วไหวดั่งสายน้ำและง่ายต่อการทำความสะอาด
พวกเราคิดว่านี่เป็นเพียงจุดเริ่มต้นเล็ก ๆ ของแบรนด์เคียงเท่านั้น เส้นทางข้างหน้ายังอีกยาวไกล แต่พวกเราจะขอมุ่งมั่นส่งต่อความห่วงใยและปลอดภัยผ่านเคียงต่อไป 🙂