6 Min

พรุ่งนี้ที่แปลว่าความหวัง

คำว่า "พรุ่งนี้" นอกจากใช้แสดงถึงระยะเวลาในอนาคต ยังใช้แสดงถึง "ความฝัน" และ "ความหวัง"

6 Min
162 Views
12 Apr 2021

พรุ่งนี้ที่ดีกว่า…ที่ฉันเห็น

“เดี๋ยวพรุ่งนี้ไว้เจอกันนะ”

“พรุ่งนี้คิดว่าน่าจะเสร็จแหละ”

“ตอนนี้ฉันง่วงมาก เดี๋ยววันพรุ่งนี้ค่อยมาจัดการก็แล้วกัน”

         คำว่า “พรุ่งนี้” ถูกใช้เพื่อแสดงถึงสิ่งที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคต หรือแสดงถึงเหตุการณ์ที่ยังมาไม่ถึง “พรุ่งนี้” เป็นคำที่ถูกใช้ในบทสนทนาที่เราใช้กันจนคุ้นหู ถ้าจะพูดว่าได้ยินตั้งแต่เกิดก็คงไม่เกินจริงมากนัก

หรือแม้แต่ในบทเพลงที่เราฟัง คำว่า “พรุ่งนี้” ยังถูกหยิบยกมาใช้ในเชิง “ความฝัน” หรือ “ความหวัง” อีกด้วย

แล้ววันว่า “พรุ่งนี้” มันจะหมายถึง “ความฝัน” หรือ “ความหวัง” ได้อย่างไรกันละ?

อย่างบทเพลง “กี่พรุ่งนี้” ของวงดังอย่าง Potato ที่มีเนื้อเพลงท่อนหนึ่งที่ว่า…

“กี่พรุ่งนี้ น้ำตาถึงจะหยุดไหล

จะยอมรับความจริงวันนี้ให้ได้

ที่จะต้องไม่มีใคร ไม่มีใครอีกต่อไป…”

 

หรือเพลง “พรุ่งนี้ยังมีเหมือนเดิม” ของนักร้องผู้มากความสามารถอย่าง หวายและขนมจีน จากค่ายยักษ์ใหญ่ในอดีตอย่างค่ายกามิกาเซ่ ที่มีท่อนร้องท่อนหนึ่งว่า…

“พรุ่งนี้ยังมีเหมือนเดิม

พรุ่งนี้น้ำตาก็จางหาย

เจ็บสักแค่ไหน เวลาจะช่วยเยียวยา…”

 

ขาดไม่ได้ก็คงเป็นเพลง “อกหัก” จากวง Bodyslam ในท่อนสุดท้ายก่อนจบเพลงที่มีเนื้อเพลงว่า…

“ชีวิตแค่โดนทำร้าย แต่ในที่สุดมันต้องไม่โดนทำลาย แค่วันนี้หัวใจสลาย

เตือนตัวเองว่าถึงยังไงฉันยังต้องอยู่ ความรักลวงหลอกมันก็แค่เจ็บปวด

ไม่มีค่า ให้มันทำลายชีวิตไม่ได้ ต้องไม่ตาย…

ชีวิตยังมีพรุ่งนี้เสมอ

ชีวิตยังมีพรุ่งนี้เสมอ….”

 

จากบทเพลงทั้งสามบทเพลงที่ยกตัวอย่างมานั้น เราสามารถมองเห็นจุดที่ตรงกันได้นั่นคือคำว่า “พรุ่งนี้” ถูกใช้เพื่อแสดงถึง “ความฝัน” และ “ความหวัง” หวังว่าสักวันจะหายดีจากความรักที่เจ็บปวด หวังว่าสักวันจะยืนหยัดและลุกออกจากความเสียใจได้อย่างแข็งแกร่ง หวังว่าวันพรุ่งนี้จะมีสิ่งที่เรารอคอยอยู่ ณ ที่แห่งนั้น

ดังนั้นคำว่าพรุ่งนี้ จึงสามารถถูกใช้แทน “ความฝัน” และ “ความหวัง” อย่างไม่ต้องสงสัย

 

แล้วพรุ่งนี้ของเราละ? เราวาดวันพรุ่งนี้ไว้แบบไหน?

หากให้จินตนาการถึงวันพรุ่งนี้ที่อยากให้เป็นและใกล้ตัวมากที่สุดก็คงไม่พ้นสิ่งอำนวยความสะดวกในชีวิตประจำวันที่จำเป็น หรือ “รัฐสวัสดิการ” ที่ดีจากทางภาครัฐ

รูปภาพจาก : https://mgronline.com/local/detail/9550000056219

พรุ่งนี้ที่มีทางเท้าที่ดี ไม่ต้องกลัวเดินตกท่อ สะดุดก้อนอิฐบางก้อนที่พังจนนูนออกมา ทางเท้าที่ไม่ต้องหลบรถจักรยานยนตร์ สามารถเดินไปได้หลาย ๆ ที่ที่อยากไป มีต้นไม้ร่มรื่น และมีหลอดไฟพร้อมกล้อง CCTV เพื่อให้สบายแม้จะต้องเดินกลับบ้านในยามค่ำคืน

รูปภาพจาก : https://www.springnews.co.th/news/422265

การคมนาคมอย่างรถโดยสารสาธารณะ เช่น รถไฟฟ้า หรือรถเมล์ ที่ถูกปรับเปลี่ยนให้ทันยุคทันสมัย ติดเครื่องปรับอากาศ มีเครื่องเก็บตั๋ว จุดจอดรถสาธารณะและที่รอรถสาธารณะที่มีคุณภาพ อำนวยความสะดวกให้คนชราและคนพิการสามารถใช้บริการได้ ราคาไม่แพงเมื่อเทียบค่าแรงงานขั้นต่ำ ที่สำคัญคือสามารถเข้าถึงประชาชนทุกคนได้อย่างเท่าเทียม หากมีระบบขนส่งมวลชนที่ดี ผู้คนคงสามารถเดินทางไปทำหน้าที่ของตัวเองได้ดีมากยิ่งขึ้น ลดเวลาการใช้เวลาบนท้องถนนมากขึ้น มีเวลาพักผ่อนจากการเหนื่อยล้าจากการเรียนหรือการทำงาน สามารถได้ใช้เวลากับครอบครัวหรือเพื่อน ๆ ได้มากขึ้น สามารถออกไปเดินเล่นที่สวนสาธารณะ ได้สูดอากาศบริสุทธิ์ไร้ความกังวลถึงปัญญามลพิษของอากาศที่มีผลต่อสุขภาพ หรือมีเวลาไปอ่านหนังสือที่ห้องสมุดที่ทันสมัยของภาครัฐ เป็นห้องสมุดที่เข้าสามารถเข้าถึงได้ง่ายและสะดวก

เป็นวันพรุ่งนี้ที่ประชาชนทุกคนมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดี ค่าแรงงานขั้นต่ำสอดคล้องกับค่าโดยสารสาธารณะ ค่าหนังสือที่ไว้อ่านผ่อนคลายหรือหนังสือที่ใช้อ่านเพื่อประเทืองปัญญา ค่าอาหาร,ค่ายา,ค่าที่อยู่อาศัย และค่าเครื่องแต่งกายที่ถือเป็นปัจจัยสี่ รวมถึงการศึกษาที่ไร้ความเหลื่อมล้ำ มีคุณภาพที่จะพัฒนาคนในชาติให้เป็นคนที่ฉลาดมีความรู้และมีความสุข ทั้งหมดนี้คือพรุ่งนี้ที่ฉันฝันถึง

 

ฝันสูงไปรึเปล่า? พรุ่งนี้ที่เป็นแบบนี้มันมากไปไหม?

หากมองสภาพสังคมในปัจจุบันที่กล่าวมาข้างต้นคงเป็นพรุ่งนี้ที่ดูเกินจริงน่าดู แต่ฉันเชื่อว่าสักวันประเทศของเราจะมีพรุ่งนี้ที่ฉันฝันถึงได้ พรุ่งนี้อีกสิ่งหนึ่งที่ฉันอยากมีคือ การที่ทุกคนตระหนักถึงสิทธิ์ที่ตนเองควรค่าที่จะได้รับ อย่าเมินเฉยต่อความอยุติธรรม อย่ามองว่าเรื่องบางเรื่องเป็นเรื่องที่ปกติทั้งที่มันไม่ปกติ การออกมาพูดในสิ่งที่เราอยากเสนอความคิดเห็นในฐานะประชาชนคนหนึ่งของประเทศ การที่จะได้รับรัฐสวัสดิการที่ดีล้วนเป็นสิทธิ์ของเราทั้งสิ้น ดังนั้น สิ่งที่ฉันต้องการให้สังคมเปลี่ยนแปลงมากที่สุด คือการที่ทุกคนออกมาเรียกร้องสิทธิ์ที่เราทุกคนควรได้รับ โดยไม่คิดว่าตนเองเป็นพวกรักสบาย เรื่องมาก หรือไม่อดทน

รูปภาพจาก : https://www.bbc.com/thai/features-51473472

หากจะให้จินตนาการถึงวันพรุ่งนี้ที่อยากเห็นอีกสักเรื่อง ก็คงไม่พ้นเรื่องของโรคโควิด-19 ที่เป็นโรคระบาดที่ต่อเนื่องยาวนานและกินเวลานานมากกว่า 1 ปี สถานการณ์ช่วงนี้สามารถพูดได้ว่าไม่สามารถเอาแน่เอานอนได้ เหมือนกำลังจะกลับมาปกติแต่ก็กลับมาแย่ เหมือนกำลังจะดีขึ้นแต่ก็ไม่ดีขึ้น วน ๆ ซ้ำ ๆ จนทำให้หลาย ๆ คนสูญเสียโอกาสหลายอย่าง ผู้ประกอบการรายย่อยที่ทยอยกันปิดกิจการ พ่อค้าแม่ค้าที่เริ่มจะทำมาหากินได้ยากมากขึ้น ภาระหนี้สินและค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ที่ต้องแบกรับก็เพิ่มมากขึ้น หรือช่วงเวลาอันแสนพิเศษของนักเรียน นิสิต นักศึกษา ที่ควรได้ใช้ชีวิตในรั้วโรงเรียนหรือรั้วมหาวิทยาลัยก็สูญเสียไปอย่างเลี่ยงไม่ได้ เวลาเดินผ่านไปเรื่อย ๆ เหมือนสายน้ำที่ไหลไม่ย้อนกลับ เรามีอายุมากขึ้นทุกวัน กิจกรรมบางอย่าง โอกาสในบางสิ่ง มันจะไม่สามารถทำได้เมื่อเวลาผ่านเลยไปมากกว่านี้ ตัวเราที่อายุเพิ่มขึ้นในทุกวันกับโควิดที่ใช้เวลาของเราและหยุดทุกสิ่งทุกอย่างเอาไว้ ทำให้หลายชีวิตสูญเสียโอกาสและช่วงเวลาอันแสนมีค่าที่ทุกคนสมควรที่จะได้รับ ยกตัวอย่างเช่น หากเรามีคุณตาคุณยายที่อายุ 60 ปีแล้ว เราอยากพาท่านไปเที่ยว แต่พอเกิดโรคระบาดเราก็ไม่สามารถพาท่านไปได้แล้วต้องรอไปอีกกี่ปี 1 ปี 2 ปี หรือมากเท่าไหร่? เราจึงจะไปเที่ยวกับครอบครัวได้อย่างสบายใจอีกครั้ง นิสิตนักศึกษาที่ต้องเข้าไปทำกิจกรรมในมหาวิทยาลัย อาทิกิจกรรมรับน้องปี 1 ก็ต้องถูกจัดแบบ Online ซึ่งไม่สามารถเทียบได้กับการจัดกิจกรรมที่มาพบปะกันจริง ๆ แต่ถึงอย่างไรก็คงไม่สามารถเลื่อนค่ายรับน้องไปจัดในตอนที่อยู่ปีสองได้เช่นกัน จากการยกตัวอย่างจะเห็นได้ว่า หากเรามีอายุมากกว่านี้ ปล่อยให้เวลาล่วงเลยผ่านไปมากกว่านี้ สิ่งที่เหมาะสมที่สมควรที่จะทำในตอนนี้ เวลานี้ ที่เราถือว่าเป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุดสำหรับสิ่ง ๆ นี้ นั่นแหละ…คือสิ่งที่โรคโควิด-19 ได้พรากเวลาอันมีค่าของทุกคนไป

พรุ่งนี้ที่ฉันอยากเห็นคงเป็นวันพรุ่งนี้ที่คนไทยทุกคนสามารถเข้าถึงวัคซีนที่มีประสิทธิภาพได้อย่างทั่วถึง เพราะเมื่อได้รับวัคซีนแล้วผู้คนก็จะมีภูมิคุ้มกัน เศรษฐกิจก็จะสามารถเดินหน้าได้ นักเรียนกลับมาเรียนที่โรงเรียนได้ นิสิตนักศึกษาเข้ามาเรียนในมหาวิทยาลัยได้ พ่อค้าแม่ค้าและผู้ประกอบการสามารถกลับมาค้าขายกันได้  ทุกคนได้กลับมาใช้ชีวิตได้อย่างเต็มที่ ไร้ความหวาดระแวง และได้รับช่วงเวลาที่สำคัญของทุกคนกลับคืนมา เป็นวันพรุ่งนี้ที่เราทุกคนได้ใช้เวลาอันแสนมีค่ากับคนที่เรารัก กับกิจกรรมที่เราชอบ กับการเดินทางที่ที่เราอยากไป กับทุกสิ่งที่ใจเราปรารถนาอยากทำ  และเป็นวันพรุ่งนี้ที่ไม่ต้องมีการปิดบังรอยยิ้มอันแสนสดใสและใบหน้าที่น่ารักของทุกคนด้วยหน้ากากอนามัย

 

นอกจาก “โรค” ระบาดแล้วลองกลับมามอง “โลก” ใบนี้ของเรากันบ้าง

คำเตือน : เนื้อหาต่อจากนี้มีเนื้อหาของความรุนแรงในการใช้ความรุนแรงในการทำร้ายร่างกาย

หลาย ๆ คนคงได้ยินข่าวการทำร้ายร่างกายของ George Froyd ชายชาวอเมริกันเชื้อสายแอฟริกันที่เสียชีวิตระหว่างการจับกุมของตำรวจ โดยตำรวจผิวขาวได้ใช้เข่ากดคอจนเขาขาดอากาศหายใจจนถึงแก่ชีวิต ทำให้เกิดการรณรงค์เคลื่อนไหว “Black Lives Matter” ขึ้นในหลายประเทศ เพื่อเรียกร้องความเท่าเทียมและรณรงค์การไม่แบ่งแยกเชื้อชาติและสีผิว

รูปภาพจาก : https://www.bbc.com/thai/international-52956696

นอกเนื้อจากกระแส “Black Lives Matter” ที่มีผู้ออกมาเรียกร้องในหลายประเทศแล้วยังมีกระแส “Anti Asian hate” โดยคนในโซเชียลร่วมกันติด #StopAsianHate ทั้งในทวิตเตอร์ อินสตาแกรมและแพลตฟอร์มอื่น ๆ โดยมีคลิปเกี่ยวกับกระแสการเหยียดชาวเอเชียออกมาเผยแพร่บนโลกออนไลน์เป็นระยะ ๆ ไม่ว่าจะเป็น การล้ออวัยวะทางร่างกายอย่างดวงตาว่ามีขนาดที่เล็ก,การตะโกนเหยียด ล้อหรือด่าทอ รวมถึงขั้นทำร้ายร่างกายบนที่สาธารณะอย่างเปิดเผยและแพร่หลาย อีกทั้งยังเกิดเหตุยิงกราดที่ร้านสปาในสหรัฐ โดยผู้เสียชีวิตเกินครึ่งเป็นชาวเอเชีย จึงมีการสันนิษฐานว่ากระแสเหยียดชาวเอเชียเป็นแรงจูงใจในการกระทำการณ์ครั้งนี้หรือไม่

รูปภาพจาก : https://blog.google/outreach-initiatives/diversity/why-im-speaking-out-against-anti-asian-hate/

โลกในมิติใดที่ทุกคนอยากเห็น? โลกที่เต็มไปด้วยความเกลียดชัง แบ่งแยก และเหยียดหยามกันและกันงั้นหรือ?

ทุกชาติ ทุกศาสนา ทุกวัฒนธรรม มีความพิเศษและความมหัศจรรย์ ทุกคนบนโลกนี้มีความแตกต่าง การที่มีความแตกต่างไม่ได้หมายความว่าจะต้องมีการแปลกแยก ความแตกต่างนี้เป็นสิ่งที่ทำให้โลกใบนี้มีความสวยงาม เชื้อชาติและประเทศที่เราเกิดขึ้นมาไม่มีใครสามารถเลือกได้ว่าอยากเกิดในประเทศไหน ทวีปอะไร อยากเป็นคนเชื้อชาติใด หากแต่คนบนโลกสามารถเข้าใจความแตกต่างทางเชื้อชาติ ความแตกต่างทางวัฒนธรรม หรือความแตกต่างของศาสนาที่แต่ละคนนับถือ เคารพในความเชื่อและความเป็นตัวของตัวเองในตัวผู้อื่น นี่คงเป็นพรุ่งนี้ของโลกในอีกมิติหนึ่งที่สวยงามและทุกคนสามารถอยู่ร่วมกันได้อย่าสงบสุข

 

พรุ่งนี้โลกเราจะมีความเสมอภาค ความเท่าเทียม ความไม่แบ่งแยก และเคารพความแตกต่างของผู้อื่น  เป็นพรุ่งนี้ที่ฉันอยากเห็น

พรุ่งนี้ที่โรคระบาด อย่าง โควิด-19 มีสถานการณ์ที่ดีขึ้น ไม่ช่วงชิงช่วงเวลาและพรากความสุขของทุกคนไป เป็นพรุ่งนี้ที่ฉันอย่างเห็น

และพรุ่งนี้ที่ทุกคนตระหนักถึงสิทธิ์ที่ตนควรจะได้รับ นี่ก็เป็นพรุ่งนี้ที่ฉันอยากเห็น

 

แล้วคุณล่ะ อยากมีวันพรุ่งนี้แบบไหน?

แล้วคุณล่ะ มีสิ่งที่อยากลงมือทำในตอนนี้เพื่อวันพรุ่งนี้รึเปล่า?

#writethefuture #พรุ่งนี้ที่ดีกว่า

อ้างอิง : https://thematter.co/brief/138296/138296

https://www.bbc.com/thai/international-52956696