หมาเป็นสัตว์ที่มนุษย์เอามาเลี้ยงเป็นอย่างแรกของโลกเมื่อราวเกือบ 20,000 ปีที่แล้ว และในอดีตที่ผ่านมา หมาก็มี “หน้าที่” หรือ “งาน” สารพัดในสังคมมนุษย์ ไม่ว่าจะเป็นช่วยมนุษย์ในการไล่ล่าสัตว์ ช่วยมนุษย์ต้อนฝูงสัตว์ ไปจนถึงช่วยมนุษย์ลากเลื่อน พูดง่าย ๆ ถึงหมาจะเป็น “เพื่อนที่ดีที่สุดของมนุษย์” แต่ดั้งเดิมมันเป็น “สัตว์ใช้งาน” เช่นเดียวกับสัตว์หลาย ๆ ชนิดที่มนุษย์เอามาเลี้ยง
อย่างไรก็ดีวาร์ปมาสังคมปัจจุบัน หมาแทบจะเป็น “เพื่อนที่ดีที่สุดของมนุษย์” แบบสมบูรณ์ หรือพูดง่าย ๆ คือ หมานั้น “ตกงาน” ในสังคมมนุษย์ไปแล้ว แต่ทว่าได้เลื่อนขั้นเป็น “ลูกรัก” แทน
…แต่ก็มีหมาพันธุ์หนึ่ง ที่ปัจจุบันยังเป็น “สัตว์ใช้งาน” อยู่กว้างขวางในสังคมสมัยใหม่ในเมือง และหมาพันธุ์นั้นก็คือ German Shepherd หรือที่เราอาจคุ้นในชื่อ “อัลเซเชี่ยน” (Alsetian) มากกว่า (ซึ่งก็ไม่ผิด เพราะนี่เป็นชื่อพันธุ์เก่าที่ทางอังกฤษใช้เรียกหมาพันธุ์นี้ตั้งแต่ช่วงสงครามโลกครั้งที่ 1 ถึงปี 1977 และบ้านเราก็รับชื่อนี้มาจากทางอังกฤษ)
ทุกวันนี้เรามักจะเห็นหมา German Shepherd ทำงานกับตำรวจตลอด ซึ่งงานหลักก็น่าจะเรียกว่าเป็น “เจ้าหน้าที่ดมกลิ่น” เพราะจนทุกวันนี้ มนุษย์เราก็ยังไม่สามารถพัฒนาเซนเซอร์ตรวจกลิ่นที่มีประสิทธิภาพได้เท่ากับจมูกของหมา ดังนั้นหน้าที่ในการ “เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการดมกลิ่น” ของหมาก็ยังอยู่กับสังคมมนุษย์
…ว่าแต่ทำไมมันต้อง German Shepherd? คือถ้าใครพอรู้ หมาไม่ว่าจะพันธุ์ไหนก็มีความสามารถในการดมและแยกแยะกลิ่นได้ไม่น่าจะต่างกัน แต่มนุษย์กลับเลือกหมาสายพันธุ์เดียวเพื่อมาทำงานนี้
คำอธิบายมีทั้งเชิงประวัติศาสตร์ และเชิงธรรมชาติ แต่เราขอเริ่มที่ประวัติศาสตร์ของหมาสายพันธุ์นี้ก่อน
เห็นว่าเป็นหมาใช้งาน เราอาจพาลนึกไปว่ามันเป็นหมาพันธุ์เก่าแก่แต่จริง ๆ ไม่ใช่ เพราะหมาพันธุ์นี้เพิ่งเกิดขึ้นมาเมื่อราว ๆ ปลายศตวรรษที่ 19 เท่านั้นเอง ซึ่งนั่นเป็นช่วงหลังที่มนุษย์เริ่มเพาะพันธุ์หมาที่เน้นความสวยงามแทนที่จะเป็นประโยชน์ใช้งานช่วงกลางศตวรรษที่ 19
German Shepherd ในตอนแรกก็คือที่สืบเชื้อสายมาจาก “หมาเลี้ยงแกะ” ในยุโรป ซึ่งก็คงไม่ต้องบอกว่าจริง ๆ มันก็คือ “หมาเลี้ยงแกะ” ในกลุ่มประเทศที่ใช้ภาษาเยอรมันนั่นเอง (ที่เรียกแบบนี้เพราะเยอรมันเพิ่ง “รวมประเทศ” ปี 1871 แต่หมาพันธุ์นี้มีมาก่อนแล้ว)
ตอนปลายศตวรรษที่ 19 ประเทศเยอรมันเข้าสู่ยุคอุตสาหกรรม สังคมเกษตรหดตัวอย่างรวดเร็ว นี่ทำให้การเลี้ยงแกะมีน้อยลง และทำให้หมาเลี้ยงแกะเริ่ม “ตกงาน” กัน
แต่ช่วงนั้นเองก็มีกลุ่มคนที่เล็งเห็นว่าหมาเลี้ยงแกะเป็นหมาที่มีลักษณะพิเศษ คือเป็นหมาที่ฉลาด ทำงานร่วมกับคนได้ดี รับคำสั่งได้ดี จึงอยากจะอนุรักษ์หมาเลี้ยงแกะของประเทศเยอรมันเอาไว้ก่อนสัตว์พันธุ์นี้จะสูญหายไป เลยมีการตั้งสมาคมหมาเลี้ยงแกะเยอรมัน (Society for German Shepherd Dog) ขึ้นเพื่อการนี้
ซึ่งสมัยนั้นเวลาพูดถึง “หมาเลี้ยงแกะ” มันไม่ใช่หมาเป็นพันธุ์ ๆ แบบทุกวันนี้ แต่คือหมาอะไรก็ได้ที่สามารถเอามาเลี้ยงแกะได้ดี ดังนั้นทางสมาคมก็เลยต้องมีโจทย์ว่าต้องเลือกหมาเลี้ยงแกะมาสักตัว ที่มีคุณลักษณะเป็นหมาเลี้ยงแกะที่สมบูรณ์ ซึ่งหมาเลี้ยงแกะที่ถูกเลือกมาเป็น “พ่อพันธุ์” มีชื่อว่า Harold von Grafrath และทุกวันนี้หมา German Shepherd ทั้งหมดในโลกก็คือลูกหลานของ Harold von Grafrath กับทางแม่พันธุ์ตัวอื่น ๆ ที่ทางสมาคมเพาะมาในตอนนั้น
ต่อมาเมื่อตอนสงครามโลกครั้งที่ 1 มนุษย์ได้ทำการห้ำหั่นกันอย่างโหดร้ายที่สุดครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์มนุษยชาติ เรียกได้ว่าทุกชาติที่ร่วมรบใส่กันเต็ม และไม่ได้ส่งแค่คนไปรบ แต่ก็ส่งหมาไปรบด้วย โดยทางกองทัพเยอรมันผู้เริ่มสงครามได้ทำการใช้หมา German Shepherd อย่างหนักในการทหาร
ซึ่งแน่นอนก็อย่างที่รู้กันว่าเยอรมันแพ้สงคราม แต่ชาติอื่น ๆ ก็ได้เห็นความห้าวหาญ ปราดเปรียวและชาญฉลาดของหมา German Shepherd ที่ดูจะ “เหนือ” กว่าหมาที่ชาติอื่น ๆ ร่วมรบ ชาติอื่น ๆ ก็เลยเอาหมา German Shepherd มาใช้ในการทหารกัน
อย่างไรก็ดี เนื่องจากเยอรมันเป็นชาติก่อสงคราม ในหลาย ๆ ชาติมันมีคติในการเกลียดคนเยอรมันและทุกสิ่งที่เกี่ยวกับเยอรมันมาก ๆ พอหลังสงครามโลกครั้งที่ 1 ทางอังกฤษก็เลยมีการเปลี่ยนชื่อเรียกหมาพันธุ์นี้เป็น Alsetian ซึ่งตั้งตามแคว้น Alsace ของฝรั่งเศสที่ติดกับเยอรมัน และที่อังกฤษก็เรียกหมาพันธุ์นี้ว่า Alsetian มายาวนานจนคนชินกับชื่อสายพันธุ์นี้ไปแล้วแม้ว่าตั้งแต่ปี 1977 จะเปลี่ยนชื่อทางการกลับมาเป็น German Shepherd แล้ว
ความนิยมในการฝึกหมา German Shepherd ในการทหารขยายตัวขึ้นเรื่อย ๆ หลังสงครามโลกครั้งที่ 1 ซึ่งที่โหดคือ ไปค้นดูรูปได้เลยครับ “หมา” ที่ใช้รบในสงครามโลกครั้งที่ 1 เราจะเห็นหลากหลายสายพันธุ์มาก แต่พอมาสงครามโลกครั้งที่ 2 ไม่ว่าจะเป็นหมาของฝ่ายสัมพันธมิตรหรือฝ่ายอักษะ ก็ล้วนแต่จะใช้หมาพันธุ์ German Shepherd ทั้งนั้น
พูดง่าย ๆ ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 หมา German Shepherd ก็กลายเป็น “หมาทหาร” ไปแล้ว และก็ยังเป็นมาจนถึงทุกวันนี้ และที่เราเห็นว่ามันเป็น “หมาตำรวจ” น่ะ จริง ๆ ทหารเอามาใช้ก่อน และตำรวจใช้ตาม
เหตุที่หมาพันธุ์นี้ถูกเอามาใช้ทางการทหารตำรวจขนาดนี้ส่วนหนึ่งมาจากธรรมชาติของมันที่ฉลาด ฝึกง่าย ทำงานกับมนุษย์ได้ดี ซึ่งเอาจริง ๆ แม้แต่ในโครงการ “หมานำคนตาบอด” รุ่นแรกสุดที่เกิดขึ้นที่สวิสในช่วง 1920’s หมาทุกตัวในโครงการยังเป็น German Shepherd เลย
พูดง่าย ๆ คือ ตอนต้นศตวรรษที่ 20 German Shepherd ถือเป็นหมาสารพัดประโยชน์ที่ฝึกได้ง่ายที่สุด จะฝึกให้ดมระเบิดก็ได้ จะฝึกให้ออกรบก็ได้ หรือจะฝึกให้เป็นหมานำทางคนตาบอดในยามสงบยังได้เลย
และก็นี่แหละครับเหตุผลที่ทุกวันนี้เราเห็น “หมาตำรวจ” ทั่วโลก แทบจะมีแต่ German Shepherd จริง ๆ มันเป็นแบบนี้มาตั้งแต่ก่อนสงครามโลกครั้งที่ 2 แล้ว
…สุดท้ายคนอาจสงสัยว่า เอ เดี๋ยวนี้หมานำคนตาบอดส่วนใหญ่จะเป็น Labradors กับ Golden Retrievers นี่แล้วจริง ๆ หมาสองสายพันธุ์นี้เราก็เห็นเป็นหมาตำรวจบ้าง
คำตอบคือ ช่วงหลัง ๆ พวกคนฝึกหมาเริ่มพบว่าหมาน่ารักสองสายพันธุ์นี้ จริง ๆ ฝึกให้ “ทำงาน” ได้เหมือน German Shepherd ทุกอย่าง คือแทนกันได้หมด ความต่างคือ พอเอาไปทดสอบนิสัย หมาน่ารักสองพันธุ์นี้มีจุดเด่นที่ความเป็นมิตรกับมนุษย์ ส่วน German Shepherd มีจุดเด่นที่ความสามารถในการที่จะ “ดุ” เวลาที่จะปกป้อง “เจ้านาย” ดังนั้นผลก็คือ ในงานด้านตำรวจกับทหาร German Shepherd ก็ยังเป็นหมาที่เหมาะที่สุด เพราะมันใช้ความรุนแรงได้ดีในกรณีคับขัน ส่วน Labradors กับ Golden Retrievers ที่ยิ้มแย้มแจ่มใสน่ารักนั้นไป ๆ มา ๆ ก็เหมาะกับงานที่ต้องใช้ความฉลาดแต่ไม่ใช่ความรุนแรงอย่างการนำทางคนตาบอด และทุกวันนี้ หมาสองพันธุ์นี้ก็เลยเป็นประชากรส่วนใหญ่ของหมานำทางคนตาบอดแทน German Shepherd ไปแล้ว
ทั้งนี้ทั้งนั้น ถ้าจะถามว่า เอาจริง ๆ เราจะใช้หมาพันธุ์อื่น ๆ “ทำงาน” แทนหมาอย่าง German Shepherd ได้มั้ย? ในทางทฤษฎี ก็น่าจะได้ครับ เพราะมีหมาอีกหลายพันธุ์แน่นอนที่ฉลาดและรับคำสั่งคนได้ดีไปไม่น้อยกว่า German Shepherd แต่ในความเป็นจริง การที่ German Shepherd พวกนี้สามารถ “ทำงาน” ได้ในสังคมมนุษย์ ก็เพราะมนุษย์ “เห็น” มันแล้วก็คิดว่ามันทำงานได้ด้วย
พูดง่าย ๆ คือ เราจะฝึกหมาชิวาวา หมาปั๊ก หรือหมาพันทางให้เป็นหมาตำรวจก็น่าจะได้ครับ แต่ถึงมันทำได้จริง มันก็ดูไม่ขึงขังเวลาคนเห็น กล่าวคือ ถ้าตำรวจจูงหมาพันธุ์อื่นมาทำงาน ถึงมันทำงานได้ แต่คนก็อาจไม่ได้ยำเกรงมัน แถมหากเป็นพันธุ์น่ารัก คนก็จะชวนเล่น เสียงานอีก แต่ถ้าเป็น German Shepherd มันไม่ได้ได้แค่ความสามารถที่ทำงานได้ แต่ความขึงขังและน่าเกรงขามมันก็เหมาะสมกับงานได้เช่นกัน จูงมาที คนเห็นก็ยำเกรงไม่กล้าชวนเล่นแล้ว และก็ทำงานได้สะดวก
และก็นี่แหละครับเหตุที่ทุกวันนี้หมาตำรวจยังเป็น German Shepherd เหมือนตอนช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2